Autotirechecking สเปคและราคายางอัพเดตล่าสุด TOP CHART ยางรถยนต์ - ยางรถยนต์ขอบ 13" - ยางรถยนต์ขอบ 14 " - ยางรถยนต์ขอบ 15 " - ยางรถยนต์ขอบ 16 " - ยางรถยนต์ขอบ 17 " - ยางรถยนต์ขอบ 18 " - ยางรถยนต์ขอบ 19 " - ยางรถยนต์ขอบ 20 " - ยางรถยนต์ขอบ 21 " - ยางรถยนต์ขอบ 22 " ราคาและสเปคล้อแม็ก ราคาและสเปคแบตเตอรี่ ตารางผ่อนรถ โปรโมชั่น - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 14 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 15 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 16 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 17 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 18 " ติดต่อโฆษณา

เปิดศึกมวยเทคโนโลยีคู่เอก REEV กับ e-Power

May 14, 2025 l POST IN :: บทความทั้งหมด l By :

เปิดศึกมวยเทคโนโลยีคู่เอก REEV กับ e Power

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้พวกเราทีมงาน Autotirechecking จะพาเพื่อนๆ ไปดูมวยคู่เอกในวงการยานยนต์กัน นั้นคือ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าแบบ HEV ในหมวด Series Hybrid ระหว่างเทคโนโลยีของ NISSAN Motor นั้นคือ e-POWER และคู่ชกอย่าง Changan Motor นั้นคือ เทคโนโลยี REEV

สังเวียรศึกมวยวันนี้มาให้การชิงเข็มขัดในด้านเทคโนโลยี ซีรีส์ ไฮบริด (SERIES HYBRID) เป็นการขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่มีเครื่องยนต์ทำหน้าที่เป็นตัวปั่นกระแสไฟฟ้า เพื่อส่งมาเก็บในแบตเตอรี่ และส่งไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าไปขับเคลื่อนเพลาขับทำให้รถยนต์เคลื่อนที่

เปิดศึกมวยเทคโนโลยีคู่เอก REEV กับ e Power

เทคโนโลยีฝ่ายน้ำเงิน e-POWER ศิษย์ NISSAN

ยอดเทคโนโลยีซีรีส์ ไฮบริด (SERIES HYBRID) ที่เปิดตัว และเปิดใจคนไทยเป็นค่ายแรกโดย NISSAN THAILAND ถือว่าเป็นการนำเทคโนโลยีใหม่มาทำความเข้าใจในประเทศไทยกว่า 5 ปี

จุดเด่น

  • สมรรถนะขับขี่แบบรถยนต์ไฟฟ้า 100%
  • ไม่ต้องชาร์จไฟ
  • การขับขี่ในเมืองให้ความประหยัดน้ำมันที่โดดเด่น

จุดด้อย

  • ขนาดแบตเตอรี่เล็ก
  • อัตราความประหยัดน้ำมันนอกเมืองไม่ดีเท่าที่ควร

เปิดศึกมวยเทคโนโลยีคู่เอก REEV กับ e Power

เทคโนโลยีฝ่ายแดง REEV ศิษย์ CHANGAN

เทคโนโลยี Range-Extended Electric Vehicle หรือ REEV เป็นระบบการขับเคลื่อนแบบเทคโนโลยีซีรีส์ ไฮบริด (SERIES HYBRID) ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟ เพื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่เพื่อเพิ่มระยะทางการขับขี่

จุดเด่น

  • สมรรถนะขับขี่แบบรถยนต์ไฟฟ้า 100%
  • สามารถวิ่งในโหมด EV ได้ไกลถึง 150 กิโลเมตร (เครื่องยนต์ไม่ทำงานเพื่อชาร์จแบตเตอรี่)
  • ความประหยัดในเมือง ให้ความประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเนื่องจากใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก

จุดด้อย

  • ขนาดแบตเตอรี่ใหญ่
  • อัตราความประหยัดน้ำมันนอกเมืองไม่ดีเท่าที่ควร

เปิดศึกมวยเทคโนโลยีคู่เอก REEV กับ e Power

บทสรุปของเทคโนโลยี e-POWER และ REEV พอสังเขป

ลักษณะการทำงานของทั้ง 2 เทคโนโลยี แทบไม่ต่างกัน ว่ากันง่ายๆ คือ REEV เพิ่มเติม คือ แบตเตอรี่ใหญ่กว่า และเพิ่มความสามารถการชาร์จแบตแบบ Plug-in ที่เพิ่มจาก e-POWER  ที่ไม่มีระบบการชาร์จไฟแบบ Plug-in เพื่อรองรับการใช้งานแบตเตอรี่เพราะแบตเตอรี่มีขนาดเล็กจึงไม่จำเป็นนั้นเอง

เปิดศึกมวยเทคโนโลยีคู่เอก REEV กับ e Power

ยกที่ 1 ความประหยัดพลังงานในการขับในเมือง

ระฆังยกที่ 1 ดังขึ้นพร้อมกับการเปิดเกมรุกเข้าใส่ของ REEV ด้วยการต่อยที่แม่นยำเข้าเป้า กับการเพิ่มเติมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สามารถวิ่งได้ถึง 150 กิโลเมตร ในการชาร์จแบตเต็ม 1 ครั้ง เข้าหน้า e-POWER อย่างจังเนื่องจากแบตที่เล็กกว่าทำให้การวิ่งด้วยไฟฟ้าแบบไม่มีเครื่องยนต์ช่วยชาร์จไฟทำได้เพียงสั้นๆ ราวๆ 4 กิโลเมตร เท่านั้น เมื่อเทียบกันด้วยความประหยัดของต้นทุนเชื้อเพลิง หรือพลังงานที่ใช้ใน 1 วัน REEV หากชาร์จไฟจากบ้านแล้วขับไปทำงานในเมือง 1 วันไม่เกิน 150 กิโลเมตร  เมื่อมองในมุมนี้ e-POWER  จะต้องใช้ราคาน้ำมันที่มีราคาที่สูงกว่าไฟฟ้า แต่ก็ยังดีที่ e-POWER มีขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กกว่าทำให้น้ำหนักการบรรทุกไม่เยอะเท่า REEV ทำให้ยังพอรับได้กับความประหยัดในเมืองเมื่อเทียบกับตลาด HEV จึงถือว่ายกนี้ REEV เกือบน็อค e-POWER ได้ตั้งแต่ยกแรก เรียกได้ว่าเกือบหลับแต่กลับมาได้

เปิดศึกมวยเทคโนโลยีคู่เอก REEV กับ e Power

ยกที่ 2 ความประหยัดพลังงานในการขับนอกเมือง

ยกที่ 2 เริ่มต้น REEV ยังคงบุกต่อเนื่องรักษาความได้เปรียบด้วยการวิ่งระยะไกลที่ 100 – 150 กิโลเมตร แรกนั้นจะประหยัดสุดๆ แต่หากจะประหยัดโดยวิ่งด้วยไฟฟ้า ก็ต้องหาจุดชาร์จเพื่อเพิ่มพลังงาน แต่ถ้าจะวิ่งต่อไปการชาร์จไฟจากเครื่องยนต์ก็จะทำให้เกิดการทำงานที่เครื่องยนต์ต้องรีบชาร์จแบตให้เข้าโหมดการขับขี่แบบ ซีรีส์ ไฮบริด (SERIES HYBRID) ทำให้เกิดข้อเสียใหญ่หลวงเหมือนดูเหมือนว่า e-POWER จะเริ่มดักทางหมัดเด็ดของ REEV ออกหลบหมัดแบบดิจจิตอล ด้วยสมรรถนะการบริหารการชาร์จใช้แบตเตอรี่ของเครื่องยนต์ รวมข้อดีในด้านต่างๆ ทั้งการแบกน้ำหนักที่เบากว่า ทำให้ความได้เปรียบเรื่องอัตราความประหยัดจะขึ้นอยู่กับระยะทางที่ผู้ขับขี่เลือกที่จะไป หากยืนระยะยาวๆงานนี้ e-POWER คงพูดได้คำเดียวว่า “แบบนี้ทั้งวันยังได้”

เปิดศึกมวยเทคโนโลยีคู่เอก REEV กับ e Power

ยกที่ 3 สมรรถนะความสสนุกในการขับขี่

ในยกนี้ทั้ง REEV และ e-POWER เริ่มต่อยคุมเชิงกันมากขึ้นหลังใส่นัวร์กันมาถึง 2 ยก ไม่มีใครเอาใครลง ในด้านสมรรถนะความสนุกในการขับขี่นั้นเรียกได้ว่าไม่ต่างกันเนื่องจากเป็นสรรถนะที่ส่งตรงจาก มอเตอร์ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน ทำให้การตอบสนอง และแรงบิด ทุกอารมมีเหมือนกัน หากจุดนี้จะตัดสิ้นคงขึ้นกับการทำงานร่วมกับช่วงล้าง และระบบต่างๆ ยกนี้เลยจบไปแบบชิวๆ

เปิดศึกมวยเทคโนโลยีคู่เอก REEV กับ e Power

ยกที่ 4 การดูแลรักษา

ยกนี้เป็นยกสุดท้ายที่บอกเลยว่าเจ็บปวด การดูแลรักษา แบบเช็คระยะทั้ง 2 เทคโนโลยีนั้นไม่ต่างกัน แต่ระยะยาว REEV ดูหน้าเป็นห่วงมากกว่า จุดใหญ่เลยคือ ขนาดแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพการทำงานของเครื่องยนต์ก็จะหนักมากกว่าฝั่ง e-POWER อย่างแน่นอนแบตเตอรี่มีขนาดที่เล็กกว่า มีการออกแบบการทำงานของเครื่องยนต์ที่จูนนิ่งออกมาอย่างชัดเจนว่าให้ชาร์จแบตเตอรี่ขนาดเล็ก พร้อมสร้างสมดุลระหว่างการชาร์จ และใช้พลังงาน ทำให้ดูระยะยาว e-POWER ดูจะได้เปรียบกว่า

ในมุมการเสื่อมของเครื่องยนต์เมื่อเทียบต่อระยะทาง e-POWER มีการใช้งานที่หนักกว่าก็จริง แต่อย่าลืมว่าการชาร์จใช้ของเครื่องยนต์นั้น อัตราการใช้งานทางผู้ผลิตทั้ง NISSAN และ CHANGAN ผ่านการคำนวนมาแล้ว แต่ขนาดของเครื่องยนต์ที่จะต้องซ้อมบำรุ่งเรื่องนี้น่าสนใจกว่าในระยะยาว

เปิดศึกมวยเทคโนโลยีคู่เอก REEV กับ e Power

บทสรุปศึกเทคโนโลยีซีรีส์ ไฮบริด (SERIES HYBRID)

จบศึกการชนเทคโนโลยี เทคโนโลยีฝ่ายแดง REEV ศิษย์ CHANGAN ชนะคะแนนไปอย่างเฉียดฉิวไปกับความประหยัดในเมืองที่สามารถชาร์จไฟจากบ้านได้ ในมุมนี้ด้านการใช้งานเรามีความเห็นตรงกันว่ามันดีมากเนื่องจากในการใช้งานเพื่อขับขี่ไปทำงานในทุกวันสามารถใช้งานได้แบบไม่ต้องใช้น้ำมัน แต่ก็แอบเสียดายความง่าย และเป็นมิตรกับผู้ใช้ของ e-POWER ที่ให้ความง่ายกับการใช้ชีวิตไม่ต้องปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมอะไรจากการใช้เครื่องยนต์สันดาป แต่ถ้าจะว่าถึงเทคโนโลยีแบบจัดเต็มก็คงต้องยกให้ เทคโนโลยีฝ่ายแดง REEV ศิษย์ CHANGAN ชนะคะแนนแบบไม่เป็นเอกชัน

การตัดสินครั้งนี้พิจรณา และเกิดจากการศึกษาข้อมูล ทางเทคโนโลยี ฉะนั้นน้ำหนักการให้คะแนน ในเรื่องความมั่นใจ และอะไหล่ อื่นๆ จึงเป็นปัจจัยรองในการให้คะแนน

Top