MG VS HEV 2025 SUV ราคา ตารางผ่อน และสเปคโดยละเอียด
ในตลาด SUV ไฮบริดขนาดกลาง MG VS HEV 2025 ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามองอย่างมาก ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ฟีเจอร์แน่นเกินราคา และสมรรถนะที่ขับขี่สนุก สำหรับใครที่กำลังมองหารถครอบครัวหรือรถใช้งานประจำวันแบบประหยัดน้ำมันแต่ไม่ทิ้งดีไซน์ที่ดูดี MG VS HEV คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลยจริง ๆ
มีกี่รุ่น และราคาเท่าไหร่
MG VS HEV 2025 วางจำหน่ายในไทยทั้งหมด 3 รุ่น โดยแบ่งระดับอุปกรณ์และราคาดังนี้:
| รุ่น | ราคา |
|---|---|
| Model D | 699,000 บาท |
| Model X | 759,000 บาท |
| 100th Anniversary SE | 789,900 บาท |
ทุกคันมาพร้อมขุมพลังไฮบริดและระบบความปลอดภัยมาตรฐานจาก MG เต็มรูปแบบ ถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในระดับเดียวกัน
ตารางผ่อนชำระ (ประมาณการ)
| รุ่น | ราคา | ดาวน์ 20% | ยอดจัด | 48 งวด | 60 งวด | 72 งวด |
| Model D | 699,000 | 139,800 | 559,200 | 13,000 | 11,000 | 9,800 |
| Model X | 759,000 | 151,800 | 607,200 | 14,100 | 12,000 | 10,700 |
| 100th SE | 789,900 | 157,980 | 631,920 | 14,700 | 12,500 | 11,200 |
อัตราดอกเบี้ยประมาณ 2.79% ต่อปี ขึ้นอยู่กับไฟแนนซ์แต่ละแห่ง
สีตัวถัง และการเพิ่มเงิน
MG VS HEV มีให้เลือกทั้งหมด 3 สีหลัก ได้แก่:
- Arctic White (ขาว)
- Black Knight (ดำเงา)
- Scarlet Red (แดง)
ทุกสีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกได้อย่างอิสระ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มแบบบางค่ายที่คิดค่าทำสีเมทัลลิกเพิ่มเติม
ดีไซน์ภายนอก
MG VS HEV ออกแบบมาให้ดูสปอร์ตและล้ำยุค ตั้งแต่ไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อม Daytime Running Light, กระจังหน้าทรงใหม่ที่สะท้อนตัวตนแบบไฮบริด, เส้นสายตัวถังที่คมชัด ไปจนถึงล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วที่ออกแบบเฉพาะรุ่น
รุ่น X และ 100th SE เพิ่มความหรูด้วยซันรูฟพาโนรามา สร้างความโปร่งและสว่างให้กับห้องโดยสารได้อย่างดีเยี่ยม
ดีไซน์ภายใน
ภายในของ MG VS HEV 2025 ใช้โทนสีดำสปอร์ต เบาะหนังสังเคราะห์คุณภาพดี พร้อมหน้าจอคู่แบบ Dual Screen ที่รวมหน้าปัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนต์ 12.3 นิ้ว ไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกันอย่างลงตัว
วัสดุตกแต่งเน้นความพรีเมียม คอนโซลกลางลอยตัว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อม Paddle Shift เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า (ในรุ่น X และ SE) และพื้นที่ภายในกว้างขวางใช้งานจริงได้ทุกวัน
ขุมพลังและสมรรถนะ
MG VS HEV มาพร้อมระบบไฮบริดแบบ Full Hybrid ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC VTi-TECH ให้กำลัง 109 แรงม้า ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดรวม 200 นิวตันเมตร ส่งผ่านระบบเกียร์ E-CVT
การขับขี่ตอบสนองดี เร่งแซงมั่นใจ ใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงความเร็วต่ำและรถติด ช่วยประหยัดน้ำมันได้เฉลี่ย 24-25 กม./ลิตร
ช่วงล่าง
ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม เซ็ตมานุ่มสบายแต่ยังคงความมั่นคงขณะเข้าโค้ง เหมาะกับการใช้งานในเมืองและเดินทางไกล พวงมาลัยไฟฟ้าให้ความแม่นยำในการควบคุม
การขับขี่เหมาะกับใคร
MG VS HEV เหมาะกับ:
- ผู้ใช้ในเมืองที่ต้องการรถที่คล่องตัวและประหยัดน้ำมัน
- ครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการความปลอดภัยและความสบาย
- คนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและดีไซน์ทันสมัย
- คนที่เปลี่ยนจากรถยนต์ ICE ไปสู่ระบบไฟฟ้าแบบค่อยเป็นค่อยไป
Connectivity and Infotainment
ทุกคันติดตั้งระบบหน้าจอแบบ Touchscreen 12.3 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ทันที
- ระบบเสียงลำโพง 6 ตำแหน่ง
- Bluetooth, USB Type-C และ A
- ระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย i-SMART
- รองรับแผนที่นำทาง, ตรวจสอบสถานะรถผ่านแอปพลิเคชัน MG
เทคโนโลยีและฟีเจอร์
ระบบความปลอดภัย MG VS HEV จัดเต็มด้วยระบบ Advanced Driver Assistance System (ADAS):
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน และช่วยประคองรถ (LKA)
- ระบบตรวจจับมุมอับสายตา (BSD)
- กล้อง 360 องศา + เซนเซอร์หน้า-หลัง
เปรียบเทียบกับคู่แข่ง
| รุ่น | ราคาเริ่มต้น | จุดเด่น |
| MG VS HEV | 699,000 บาท | ราคาถูกสุด เทคโนโลยีครบ รูปลักษณ์ล้ำ |
| Honda HR-V e:HEV | 979,000 บาท | ความนุ่ม ความเงียบ ความประหยัดสูงสุด |
| Toyota Yaris Cross HEV | 899,000 บาท | แบรนด์แข็งแรง ศูนย์บริการครอบคลุม |
| Nissan Kicks e-POWER | 889,000 บาท | ขับสนุก เครื่องยนต์ไม่ทำงานขับเคลื่อน |
ข้อดีและข้อสังเกต
ข้อดี
- ราคาเริ่มต้นต่ำกว่าคู่แข่งมาก
- หน้าจอใหญ่ ระบบ i-SMART ครบ
- ฟีเจอร์ความปลอดภัยจัดเต็ม
- ดีไซน์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน
ข้อสังเกต
- ยังไม่มีรุ่น EV หรือ Plug-in Hybrid ให้เลือก
- ระบบช่วงล่างหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม
สรุป
MG VS HEV 2025 คือ SUV ไฮบริดราคาประหยัดที่ไม่ประนีประนอมเรื่องฟีเจอร์หรือดีไซน์ เหมาะกับคนที่มองหารถคันแรก หรือผู้ที่ต้องการรถใช้งานในเมืองแต่ยังคงความปลอดภัย ความไฮเทค และภาพลักษณ์ที่ดูดีในทุกวัน
