Nissan Figaro รถเปิดประทุนเรโทรจากยุค 90 ที่ยังคงจับใจ
ในช่วงปลายยุค 80 Nissan ได้ก่อตั้งแผนกพิเศษชื่อว่า Pike Factory เพื่อพัฒนารถที่มีดีไซน์นอกกรอบ ไม่ซ้ำใคร โดยใช้พื้นฐานจากรถรุ่นที่มีอยู่เดิม ผสมผสานกับสไตล์ย้อนยุคที่กำลังได้รับความนิยมในยุคนั้น
Nissan Figaro คือผลลัพธ์ของแนวคิดนี้ โดยเปิดตัวครั้งแรกในงาน Tokyo Motor Show ปี 1989 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Back to the Future” ก่อนจะเริ่มจำหน่ายจริงในปี 1991 โดยผลิตจำนวนจำกัดเพียง 20,073 คันเท่านั้น และเปิดให้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นสั่งจองผ่านระบบ จับสลาก เนื่องจากความต้องการสูงเกินคาด
การออกแบบ: ความน่ารักแบบย้อนยุคที่ไม่มีวันเก่า
Figaro ได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์ยุโรปยุค 50–60 เช่น Fiat 500, Citroën 2CV และ Mini Cooper แต่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นที่ประณีตและใช้งานง่ายเข้าไป ทำให้เกิดรูปลักษณ์ที่น่ารักแต่ไม่ทิ้งฟังก์ชัน
ลักษณะภายนอกเด่น:
- ตัวถังแบบ 2 ประตู Convertible หลังคาแข็งที่เปิดได้บางส่วน (Fixed-Profile Convertible)
- ไฟหน้าและไฟท้ายทรงกลมโบราณ
- มือจับประตูและกันชนโครเมียม
- เส้นสายโค้งมนรอบคันที่ดูอบอุ่น
- สีพิเศษ 4 สีแทนฤดูกาล: Emerald Green (Spring), Pale Aqua (Summer), Topaz Mist (Autumn), Lapis Grey (Winter)
ภายใน: คลาสสิกและพรีเมียมเกินคาด
ห้องโดยสารของ Figaro ถูกออกแบบมาเพื่อให้รู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในรถยุโรปวินเทจ
- คอนโซลหน้าเรียบง่าย หุ้มหนังเทียมสีครีม
- เรือนไมล์ทรงกลมพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบอนาล็อก
- เบาะหนังแท้สี Ivory คู่กับพวงมาลัยแบบ Classic 2 ก้าน
- วิทยุและเครื่องเสียงแบบย้อนยุค แต่แฝงฟังก์ชันทันสมัย เช่น CD Player และระบบปรับอากาศ
แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่ Figaro ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหราในแบบที่รถเล็กสมัยใหม่ไม่สามารถให้ได้
พื้นฐานทางวิศวกรรม: เล็กแต่ใช้งานได้จริง
แม้จะดูเหมือนรถโชว์ แต่ Figaro ถูกสร้างบนพื้นฐานของ Nissan March K10 ซึ่งเป็นรถ Eco Car ยอดนิยมในญี่ปุ่นช่วงปลายยุค 80 ทำให้โครงสร้างพื้นฐานมีความทนทานและหาอะไหล่ได้ง่าย
ข้อมูลทางเทคนิค:
- เครื่องยนต์: MA10ET 4 สูบ 987 ซีซี Turbocharged
- กำลังสูงสุด: 76 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที
- แรงบิดสูงสุด: 106 นิวตันเมตร
- ระบบเกียร์: อัตโนมัติ 3 สปีด
- ระบบขับเคลื่อน: ล้อหน้า (FWD)
- ระบบกันสะเทือน: หน้า MacPherson Strut / หลัง 4-Link Coil
- ระบบเบรก: ดิสก์หน้า / ดรัมหลัง
- น้ำหนักตัว: 810 กิโลกรัม
อัตราเร่งและความเร็วอาจไม่ใช่จุดขายของ Figaro แต่การควบคุมพวงมาลัย การเข้าโค้ง และความคล่องตัวในเมืองถือว่าโดดเด่น
การผลิตและจำนวนจำกัด
จากความนิยมอย่างล้นหลาม Nissan ตัดสินใจผลิต Figaro เพียง 20,073 คัน และหยุดการผลิตทันทีภายในปี 1991 ซึ่งทำให้มันกลายเป็นของหายากตั้งแต่วันแรกที่ออกสู่ตลาด
ทุกรุ่นเป็นพวงมาลัยขวา (Right-hand drive) เนื่องจากผลิตขายในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ด้วยความนิยมในยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกา ทำให้มีการนำเข้าอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ความนิยมในตลาดต่างประเทศ
หลังจากเปิดตัว Figaro กลายเป็นของสะสมอย่างรวดเร็วในอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้รักรถวินเทจที่ต้องการอะไรที่แตกต่างจาก Porsche หรือ Mercedes-Benz
ในอังกฤษ มี Figaro Club ที่จัดทริปขับรถท่องเที่ยว ในขณะที่ในอเมริกา Figaro กลายเป็นรถสำหรับโชว์ในงาน Classic Car Show อยู่บ่อยครั้ง
ราคาในตลาดปัจจุบัน
ด้วยความหายากและดีไซน์ที่ไม่ตกยุค ราคาของ Figaro ยังคงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราคาประเมิน:
- สภาพดีมาก: $20,000–$30,000 (ประมาณ 750,000–1,200,000 บาท)
- สภาพใช้งานทั่วไป: $12,000–$18,000 (ประมาณ 450,000–700,000 บาท)
- รุ่นสภาพสะสม (Mileage ต่ำ / เดิมทั้งหมด): อาจสูงถึง $40,000 ขึ้นไป
ในไทย รถ Figaro มือสองจากตลาด Grey Market มีราคาอยู่ที่ 600,000–900,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพ ตัวถัง และงานซ่อมแซม
จุดเด่นที่ทำให้ Figaro ยังเป็นที่รัก
- ดีไซน์ที่เป็นอมตะ: ไม่มีรถรุ่นไหนที่ดูคล้าย Figaro ทั้งรูปทรง สี และบรรยากาศย้อนยุค
- ผลิตจำกัด: มีเพียง 20,073 คันทั่วโลก ทำให้มูลค่าคงตัวหรือเพิ่มขึ้น
- ขับง่าย ใช้งานได้จริง: แม้จะเป็นรถปี 1991 แต่ยังใช้ขับเล่นในเมืองได้สบาย
- ดูแลง่ายกว่า Classic ทั่วไป: เพราะใช้พื้นฐาน Nissan March K10
- เหมาะทั้งขับจริง และโชว์ในงานคลาสสิก
ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อ
- อะไหล่เฉพาะบางชิ้นหาได้ยาก โดยเฉพาะชิ้นส่วนตกแต่ง เช่น ไฟหน้า-หลัง, ชิ้นโครเมียม
- ระบบหลังคาอาจมีปัญหาน้ำรั่ว หากซีลเสื่อมสภาพ
- ไม่เหมาะกับการขับทางไกลต่อเนื่อง เนื่องจากเครื่องเล็กและระบบช่วงล่างออกแบบมาเพื่อเมือง
- ความปลอดภัยต่ำกว่ามาตรฐานรถใหม่ ไม่มีถุงลมนิรภัยหรือระบบช่วยเบรก
Figaro เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ชื่นชอบรถเรโทรหรือรถวินเทจที่ไม่ซ้ำใคร
- นักสะสมที่มองหารถผลิตจำนวนจำกัด
- คนเมืองที่ต้องการรถคันเล็กใช้ขับเล่นในวันหยุด
- ผู้ที่ชอบความเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์
สรุป: Nissan Figaro คือมากกว่ารถ แต่คือสไตล์
แม้จะไม่มีเทคโนโลยีทันสมัย ไม่มีสมรรถนะสุดเร้าใจ แต่ Nissan Figaro กลับมีเสน่ห์ในแบบที่รถยนต์ยุคใหม่หาไม่ได้ มันคือ “ศิลปะเคลื่อนที่” ที่มีทั้งเรื่องราว ความตั้งใจ และเอกลักษณ์ในทุกมิติ
หากคุณกำลังมองหารถที่ไม่เพียงแต่ขับได้ แต่ยังสามารถสร้างรอยยิ้มให้กับคนที่มองมา Figaro คือคำตอบที่คุณควรเก็บไว้ในใจ