Toyota Crown Crossover 2025 ครอสโอเวอร์พรีเมียมไฮบริดสวย หรู
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Toyota ได้สร้างความตื่นเต้นให้ตลาดด้วยการนำชื่อ Crown ซึ่งเคยเป็นซีดานเรือธงในญี่ปุ่น กลับมาสู่ตลาดโลกในรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หนึ่งในโมเดลที่โดดเด่นที่สุดคือ Toyota Crown Crossover 2025 หรือที่ในบางตลาด (เช่น สหรัฐฯ) ใช้ชื่อว่า Toyota Crown Signia ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความภูมิฐานของซีดานหรู เข้ากับความอเนกประสงค์ของ SUV และเส้นสายหลังคาลาดแบบ fastback
รุ่นนี้ถูกวางตำแหน่งให้อยู่เหนือ Toyota Camry และใกล้เคียงกับ Lexus NX ในแง่ความหรูหรา แต่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เน้นความสปอร์ต หรู และยังคงความประหยัดในสไตล์ไฮบริด
ดีไซน์ภายนอก – ภูมิฐาน ผสานความสปอร์ต
การออกแบบของ Toyota Crown Crossover 2025 โดดเด่นด้วยตัวถังยกสูงเล็กน้อย แต่ยังคงความปราดเปรียวของรถซีดานด้วยหลังคาลาดแบบคูเป้ (Fastback Style)
-
กระจังหน้าแนวกว้างและหนา สไตล์ใหม่ของ Crown พร้อมแถบโครเมียมที่เน้นความหรู
-
ไฟหน้า LED แบบ Signature ดีไซน์เรียวคม พร้อม Daytime Running Light เส้นต่อเนื่อง
-
ไฟท้ายแบบ Full-width LED พร้อมตัวอักษร “CROWN” หรือ “NISSAN” ในบางตลาด (แล้วแต่เวอร์ชัน)
-
ล้ออัลลอยขนาด 19–21 นิ้ว ลวดลายพิเศษเพิ่มมิติความสปอร์ต
-
สีตัวถังสองโทนในบางรุ่น เช่น ขาวหลังคาดำ หรือทองหลังคาดำ สร้างความแตกต่างและพรีเมียม
ด้วยมิติตัวถังที่ยาวประมาณ 4,930 มม. และฐานล้อกว่า 2,850 มม. Crown Crossover ให้ความรู้สึกมั่นคงและโอ่อ่าเวลาอยู่บนถนน
ห้องโดยสาร – หรูหราใกล้เคียง Lexus
ภายในของ Crown Crossover ได้รับคำชมว่าให้ความรู้สึกใกล้เคียงรถ Lexus แต่ในราคาที่เข้าถึงได้กว่า
-
วัสดุพรีเมียม เช่น หนังแท้ พื้นผิวซอฟต์ทัช และลายไม้/เมทัลลิก
-
หน้าจอคู่ 12.3 นิ้ว ทั้งเรือนไมล์ดิจิทัลและระบบ Infotainment
-
รองรับ Apple CarPlay (ไร้สาย) และ Android Auto
-
ระบบเสียงพรีเมียม JBL 11 ลำโพง (รุ่น Limited)
-
เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบอุ่นและระบายความร้อน
-
หลังคาซันรูฟพาโนรามา เพิ่มความโปร่งโล่งให้ห้องโดยสาร
-
ระบบปรับอากาศแยกโซน พร้อมฟิลเตอร์กำจัดฝุ่น PM2.5
พื้นที่โดยสารด้านหลังให้ความสบายสำหรับผู้โดยสารตัวสูง และเบาะหลังสามารถพับเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกได้แม้หลังคาจะลาด
ขุมพลังและสมรรถนะ – ไฮบริดประหยัดแต่แรงพอสำหรับทุกเส้นทาง
Toyota Crown Crossover 2025 ใช้ขุมพลังไฮบริดเจเนอเรชันล่าสุด
-
เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 4 สูบ
-
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังรวม 240 แรงม้า
-
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ E-Four AWD เป็นมาตรฐาน
-
อัตราสิ้นเปลืองสูงสุดประมาณ 38 MPG (16 กม./ลิตร)
-
โหมดการขับขี่หลายแบบ เช่น Eco, Normal, Sport เพื่อปรับการตอบสนองตามต้องการ
แม้จะเน้นความนุ่มนวลและประหยัด แต่ระบบ AWD และแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้ Crown Crossover พร้อมลุยได้ในสภาพถนนที่หลากหลาย
ระบบความปลอดภัย – Toyota Safety Sense 3.0
Crown Crossover มาพร้อมแพ็กเกจระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 เต็มรูปแบบ
-
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control)
-
ระบบเตือนและช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane Tracing Assist)
-
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนนและจักรยาน
-
ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor)
-
กล้องมองรอบคัน 360 องศา
รุ่นย่อยและราคา
ในตลาดสหรัฐ Crown Crossover (Crown Signia) มี 2 รุ่นย่อยหลัก
-
XLE – เริ่มต้นที่ $43,590
-
Limited – เริ่มต้นที่ $47,990
ราคานี้เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Lexus NX หรือ BMW X4 ถือว่าคุ้มค่า เพราะได้ทั้งความหรูและเทคโนโลยีแบบจัดเต็ม
จุดเด่นที่ทำให้ Crown Crossover น่าสนใจ
-
ดีไซน์ภายนอกไม่ซ้ำใคร ผสมซีดานและ SUV ได้อย่างลงตัว
-
ภายในพรีเมียมใกล้เคียง Lexus ในราคาที่จับต้องได้
-
ไฮบริดประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
-
ระบบความปลอดภัยทันสมัยและครบครัน
-
เหมาะกับทั้งการขับในเมืองและเดินทางไกล
ข้อสังเกต
-
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังอาจน้อยกว่าครอสโอเวอร์ทั่วไปเพราะหลังคาลาด
-
ไม่มีตัวเลือกเครื่องยนต์เทอร์โบแรงสูงหรือ PHEV สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะจัดเต็ม
สรุป
Toyota Crown Crossover 2025 คือคำตอบของคนที่มองหารถครอสโอเวอร์ที่ไม่ธรรมดา ให้ความหรู เทคโนโลยีครบ และยังคงประหยัดน้ำมันในแบบไฮบริด เหมาะสำหรับคนเมืองที่ต้องการความภูมิฐานแต่ยังชื่นชอบความเอนกประสงค์ของ SUV