BYD E7 – ซีดานไฟฟ้าราคาประหยัดที่พร้อมเปลี่ยนโฉมตลาด EV
BYD E7 คือรถซีดานขนาดกลางที่พัฒนาโดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ความสะดวกสบาย และต้นทุนการใช้พลังงานที่ต่ำเป็นพิเศษ จุดเด่นของมันคือการให้ระยะทางวิ่งสูงถึง 520 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC) ด้วยราคาค่าตัวที่ต่ำกว่ารถ EV ระดับเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญ
ราคาคาดการณ์จำหน่าย
จากข้อมูลที่เปิดตัวในจีน BYD E7 มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 103,800 หยวน หรือราว 520,000 บาทเท่านั้น และรุ่นท็อปแบตเตอรี่ใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 130,000 หยวน หรือราว 650,000 บาท
เมื่อพิจารณาถึงต้นทุนภาษีนำเข้าและโครงสร้างภาษีของไทย คาดว่า BYD E7 หากนำเข้าหรือประกอบในประเทศ จะมีราคาขายเริ่มต้นประมาณ 699,000 – 799,000 บาท ซึ่งยังถือว่าเป็น EV ที่ประหยัดที่สุดในกลุ่มรถซีดานไฟฟ้าขนาดกลาง
รูปลักษณ์ – เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์
BYD E7 ไม่ใช่รถที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดสายตาด้วยลวดลายหวือหวา แต่มาในแนวเรียบหรู สุภาพ และใช้งานได้จริง
- ด้านหน้า: ไฟหน้า LED ดีไซน์คมชัด พร้อมกระจังหน้าทรงเรียบสนิทแบบรถ EV สมัยใหม่
- ด้านข้าง: สัดส่วนตัวถังโปร่งสบาย ล้ออัลลอย 16-17 นิ้ว (แล้วแต่รุ่นย่อย)
- ด้านท้าย: ไฟท้าย LED แบบ Light Bar เชื่อมทั้งซ้ายขวา ให้ลุคทันสมัย
แม้จะไม่มีดีไซน์แบบสปอร์ตจ๋า แต่เส้นสายโดยรวมให้ความรู้สึกมั่นคง นั่งสบาย และใช้งานได้จริง โดยเฉพาะสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่ได้พื้นที่วางขากว้างขวางจากฐานล้อที่ยาวถึง 2,820 มม.
สเปค
ขนาดตัวถัง
- ความยาว: 4,780 มม.
- ความกว้าง: 1,900 มม.
- ความสูง: 1,515 มม.
- ฐานล้อ: 2,820 มม.
ขนาดใกล้เคียงกับ Tesla Model 3 หรือ Honda Accord รุ่นก่อนหน้า
มอเตอร์ไฟฟ้า
- ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)
- กำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ (134 แรงม้า)
- แรงบิด 180-200 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด: 150 กม./ชม.
แบตเตอรี่
- รุ่นพื้นฐาน: 48 kWh วิ่งได้ 450 กม. (CLTC)
- รุ่นท็อป: 57.6 kWh วิ่งได้ 520 กม. (CLTC)
การชาร์จ
- DC Fast Charging: 30-80% ภายใน 30-35 นาที
- AC Normal Charging: 6-8 ชั่วโมงที่กำลังไฟ 6.6 kW
ภายในห้องโดยสาร
ภายในของ BYD E7 แม้จะมาในสไตล์มินิมอล แต่ยังคงให้ฟังก์ชันครบถ้วนเพื่อการใช้งาน:
- หน้าจอสัมผัสกลางขนาด 12.8 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ DiLink เวอร์ชันล่าสุด
- จอผู้ขับขี่แบบดิจิทัล 8 นิ้ว
- ระบบแอร์อัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์หลัง
- วัสดุภายในเกรดดี: เบาะผ้า/หนังสังเคราะห์ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
- พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง รองรับการโดยสารได้ถึง 5 คนแบบสบายๆ
- พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถมากกว่า 450 ลิตร เหมาะกับการเดินทางไกลหรือใช้งานในงานบริการ
ฟีเจอร์เด่น และเทคโนโลยีความปลอดภัย
- กล้องถอยหลัง + เซนเซอร์หลัง (รุ่นพื้นฐาน)
- กล้อง 360 องศา + Radar หน้า (รุ่นสูง)
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP
- ระบบเตือนออกนอกเลน (LDW)
- Cruise Control
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (รุ่นสูง)
- ระบบเชื่อมต่อมือถือ: Apple CarPlay และ BYD App
เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการรถ EV ราคาไม่เกิน 8 แสนบาท ที่มีระยะทางวิ่งไกลกว่า 450 กม.
- ผู้ให้บริการฟลีทรถรับส่ง โรงแรม, โรงพยาบาล, แท็กซี่ไฟฟ้า
- คนที่ขับรถทุกวันในเมือง และต้องการลดค่าพลังงานต่อเดือนแบบจริงจัง
จุดเด่นและข้อสังเกต
ข้อดี
- ราคาถูกที่สุดในกลุ่มซีดานไฟฟ้าระดับกลาง
- ระยะทางวิ่งสูง ใช้งานระยะไกลได้จริง
- พื้นที่ภายในกว้างขวาง
- รองรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ได้ดี
ข้อสังเกต
- กำลังมอเตอร์อาจไม่เร้าใจนัก (134 แรงม้า)
- ดีไซน์เรียบ ไม่โดดเด่นในเชิงแฟชั่น
- ยังไม่มีประกาศการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย (ณ กลางปี 2025)