Autotirechecking สเปคและราคายางอัพเดตล่าสุด TOP CHART ยางรถยนต์ - ยางรถยนต์ขอบ 13" - ยางรถยนต์ขอบ 14 " - ยางรถยนต์ขอบ 15 " - ยางรถยนต์ขอบ 16 " - ยางรถยนต์ขอบ 17 " - ยางรถยนต์ขอบ 18 " - ยางรถยนต์ขอบ 19 " - ยางรถยนต์ขอบ 20 " - ยางรถยนต์ขอบ 21 " - ยางรถยนต์ขอบ 22 " ราคาและสเปคล้อแม็ก ราคาและสเปคแบตเตอรี่ ตารางผ่อนรถ โปรโมชั่น - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 14 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 15 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 16 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 17 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 18 " ติดต่อโฆษณา

BYD Shark 6 กระบะไฮบริดเสียบปลั๊กสายลุยแห่งอนาคต

คลิกเพื่อค้นหารถยนต์รุ่นอื่น ๆ

BYD Shark 6 ซึ่งเป็น กระบะปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Ute) ที่หลายคนยกให้เป็น “เกมเชนเจอร์” ของตลาด

  BYD Shark 6 กระบะไฮบริดเสียบปลั๊กสายลุยแห่งอนาคต

Shark 6 ไม่ได้เป็นเพียงกระบะธรรมดาที่บึกบึน แต่ยังรวมเอาความเป็น EV + Hybrid เข้าด้วยกัน ให้ทั้งความแรง ความประหยัด และเทคโนโลยีสุดล้ำที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในทุกสภาพถนน

ดีไซน์ภายนอก – ความแกร่งที่ผสานความทันสมัย

การออกแบบของ BYD Shark 6 เน้นเส้นสายที่เฉียบคมและล้ำสมัย กระจังหน้าขนาดใหญ่สื่อถึงพลังและความแข็งแรง ไฟหน้า LED ดีไซน์เรียวเฉียบพร้อม Daytime Running Light ที่ดูโดดเด่น

ตัวถังขนาดใหญ่สะท้อนความเป็นกระบะสายลุยเต็มขั้น แต่ยังผสมผสานความทันสมัยด้วยรายละเอียดโครเมียมและงานดีไซน์ที่เน้นความพรีเมียม ล้ออัลลอยขนาด 18–20 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) เสริมบุคลิกบึกบึน และความสูงใต้ท้องรถที่มากพอสำหรับการลุยออฟโรด

ห้องโดยสาร – สะดวกสบายและอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี

ภายใน Shark 6 สร้างความแตกต่างจากกระบะทั่วไปอย่างชัดเจน ด้วยการออกแบบที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ใน SUV หรู เบาะนั่งหนังคุณภาพสูงปรับไฟฟ้า หน้าจอ Infotainment ขนาดใหญ่กว่า 12 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto และหน้าจอมาตรวัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ

ระบบเสียงคุณภาพสูง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกโซน และ ambient lighting ทำให้ Shark 6 ไม่ได้เป็นเพียงกระบะสำหรับใช้งานหนัก แต่ยังเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลอย่างสะดวกสบาย

BYD Shark 6 กระบะไฮบริดเสียบปลั๊กสายลุยแห่งอนาคต

เครื่องยนต์และสมรรถนะ

BYD Shark 6 ใช้ระบบ Dual Mode Off-Road (DMO) ที่พัฒนาขึ้นเอง โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ Blade LFP กำลังสูงสุดรวมกว่า 430 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 650 นิวตันเมตร

อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ทำได้เพียง 5.7 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วมากสำหรับรถกระบะขนาดใหญ่ อีกทั้งยังวิ่งได้ไกลถึง 800 กม. ต่อการชาร์จ/เติมน้ำมันหนึ่งครั้ง (รวมโหมด EV + Hybrid)

สมรรถนะการลุยและระบบช่วงล่าง

Shark 6 ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในเมืองเท่านั้น แต่ยังพร้อมลุยด้วยช่วงล่าง ดับเบิ้ลวิชโบนหน้าและหลัง ที่รองรับสภาพถนนทุกรูปแบบ มีโหมดการขับขี่สำหรับ Mud, Sand, Snow รวมถึงระบบ Hill Hold, Hill Descent Control และ Auto-Hold ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับบนเส้นทางทุรกันดาร

แม้ตัวรถมีน้ำหนักมาก แต่แรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่มาแบบทันที ทำให้ Shark 6 ขับคล่องตัวในทุกสภาพถนนและสามารถตอบสนองได้อย่างฉับไว

  BYD Shark 6 กระบะไฮบริดเสียบปลั๊กสายลุยแห่งอนาคต

ขนาดและการบรรทุก

  • ความยาว: 5,457 มม.

  • ความกว้าง: 1,971 มม.

  • ความสูง: 1,925 มม.

  • ระยะฐานล้อ: 3,260 มม.

  • ความจุห้องสัมภาระท้าย: 1,200 ลิตร

  • น้ำหนักบรรทุกสูงสุด: 790 กก.

  • ความสามารถลากจูง: 2,500 กก.

ด้วยมิติที่ใหญ่และความสามารถในการบรรทุก/ลากจูงสูง ทำให้ Shark 6 ตอบโจทย์ทั้งคนทำงานที่ต้องการรถใช้งานจริงจัง และผู้ที่รักการท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์

BYD Shark 6 กระบะไฮบริดเสียบปลั๊กสายลุยแห่งอนาคต

เทคโนโลยีความปลอดภัย

BYD Shark 6 ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง เช่น

  • ระบบเบรกอัตโนมัติ (AEB)

  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและด้านหลัง

  • ระบบ Lane Keep Assist และ Lane Departure Warning

  • กล้อง 360 องศา

  • ระบบตรวจจับคนเดินถนนและรถจักรยานยนต์

  • ถุงลมนิรภัย 7 จุด

ทำให้ผู้ขับมั่นใจได้ว่ารถกระบะคันนี้สามารถพาคุณไปได้ทุกที่อย่างปลอดภัย

BYD Shark 6 กระบะไฮบริดเสียบปลั๊กสายลุยแห่งอนาคต

ราคาและการทำตลาด

ในออสเตรเลีย BYD Shark 6 วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 57,900 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 1.2 ล้านบาทไทย ถือว่าแข่งขันได้ดีกับกระบะค่ายญี่ปุ่นและอเมริกา เช่น Toyota Hilux, Ford Ranger และ Isuzu D-Max

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย อาจได้เห็น Shark 6 เข้ามาทำตลาดเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะทำให้เซกเมนต์กระบะบ้านเราร้อนแรงมากขึ้น

เปรียบเทียบกับคู่แข่ง

  • Toyota Hilux Hybrid – ได้เปรียบเรื่องความทนทานและเครือข่ายศูนย์บริการ แต่ Shark 6 เด่นด้านเทคโนโลยีและแรงม้า

  • Ford Ranger Plug-in Hybrid – คู่แข่งตรงที่ใช้ระบบเสียบปลั๊ก แต่ Shark 6 ราคาเข้าถึงง่ายกว่า

  • Isuzu D-Max / Mitsubishi Triton – ยังเน้นดีเซลเป็นหลัก Shark 6 จึงเหนือกว่าด้านเทคโนโลยีและการประหยัดพลังงาน

BYD Shark 6 กระบะไฮบริดเสียบปลั๊กสายลุยแห่งอนาคต

จุดเด่นของ BYD Shark 6

  • ระบบ Plug-in Hybrid แรงและประหยัด

  • วิ่งได้ไกลรวม 800 กม. ต่อการชาร์จ/เติมหนึ่งครั้ง

  • อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. เพียง 5.7 วินาที

  • ห้องโดยสารหรูหราเทียบชั้น SUV

  • ฟีเจอร์ความปลอดภัยและเทคโนโลยีครบ

  • ราคาเข้าถึงได้มากกว่าคู่แข่งหลายแบรนด์

สรุป

BYD Shark 6 ไม่ได้เป็นแค่กระบะธรรมดา แต่คือการปฏิวัติวงการรถสายลุยในยุคพลังงานสะอาด ด้วยความแรงที่เหนือกว่ากระบะทั่วไป สมรรถนะที่พร้อมลุย ความสะดวกสบายระดับพรีเมียม และราคาที่แข่งขันได้

ถ้าคุณกำลังมองหารถกระบะที่ “ครบเครื่อง” ทั้งการใช้งานจริงและเทคโนโลยีอนาคต Shark 6 คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามองที่สุดของปี 2025

Top