Ford Everest 2025 ราคา ตารางผ่อน สเปก และรีวิว SUV 7 ที่นั่งสุดหรู
Ford Everest 2025 ยังคงครองตำแหน่งหนึ่งใน SUV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทย ด้วยจุดเด่นเรื่องความแข็งแกร่ง เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และสมรรถนะที่พร้อมลุยได้ทุกสภาพถนน
ปี 2025 ฟอร์ดได้ปรับรุ่น Everest ให้ครบทุกด้าน ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกที่หรูขึ้น ภายในที่หรูกว่าเดิม รวมถึงระบบขับเคลื่อนที่ปรับจูนให้ตอบสนองได้ดีกว่าเดิม พร้อมระบบช่วยขับขั้นสูงที่ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้เหนือคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน
ใครที่กำลังมองหา SUV ครอบครัวที่ทั้งนั่งสบาย ลุยได้ และมีออปชันแน่น — Everest 2025 คือคำตอบที่คุณควรลองพิจารณา
Ford Everest 2025 มีให้เลือกกี่รุ่น และราคาเท่าไหร่
Ford Everest 2025 จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 7 รุ่นย่อย ครอบคลุมตั้งแต่รุ่นขับ 2 ไปจนถึงรุ่นขับ 4 พร้อมขุมพลังให้เลือกทั้งแบบ 2.0L Turbo, 2.0L Bi-Turbo และ 3.0L V6 Turbo Diesel
รุ่นย่อย | ราคา (บาท) |
---|---|
Everest 2.0 Turbo Trend 4×2 6AT | 1,397,000 |
Everest 2.0 Turbo Sport 4×2 6AT | 1,527,000 |
Everest 2.0 Turbo Sport Special Edition 4×2 | 1,619,000 |
Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×2 10AT | 1,767,000 |
Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 10AT | 1,917,000 |
Everest 2.0 Bi-Turbo Wildtrak 4×4 10AT | 1,942,000 |
Everest 3.0 V6 Turbo Platinum 4WD 10AT | 2,284,000 |
รุ่นยอดนิยมในไทยยังคงเป็น Titanium+ 4×4 ที่ให้ความสมดุลทั้งด้านออปชันและสมรรถนะ ส่วนรุ่น Platinum V6 เหมาะกับคนที่ต้องการความหรูและแรงในเวลาเดียวกัน
ตารางผ่อน Ford Everest 2025 (คำนวณจากดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.79%)
รุ่น | ราคา (บาท) | ดาวน์ 20% | ยอดจัดไฟแนนซ์ | 36 งวด | 48 งวด | 60 งวด | 72 งวด | 84 งวด |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Sport 4×2 | 1,527,000 | 305,400 | 1,221,600 | 35,700 | 27,900 | 23,300 | 20,300 | 18,400 |
Titanium+ 4×4 | 1,917,000 | 383,400 | 1,533,600 | 44,800 | 35,000 | 29,200 | 25,400 | 23,100 |
Platinum V6 | 2,284,000 | 456,800 | 1,827,200 | 53,100 | 41,500 | 34,700 | 29,800 | 27,000 |
ตารางนี้เป็นการคำนวณโดยประมาณ ตัวเลขจริงอาจแตกต่างตามโปรโมชั่นและสถาบันการเงินแต่ละแห่ง
Fore Everest Wildtrak สีดำ Absolute Black
Fore Everest Wildtrak สีเทา Meteor Grey
Fore Everest Wildtrak สีขาวมุก Snow Flake White Pearl
Fore Everest Wildtrak สีเหลือง Luxe Yellow
Fore Everest Wildtrak สีเงิน Aluminum Metallic
Fore Everest Sport สีน้ำเงิน Blue Lightning
Fore Everest Sport สีบรอนซ์ Equinox Bronze
ดีไซน์ภายนอก Ford Everest 2025
Everest 2025 ถูกออกแบบให้ดูแข็งแกร่งและพรีเมียมมากขึ้น โดยใช้เส้นสายที่ชัดเจนและบึกบึนในสไตล์ “Built Tough”
จุดเด่นภายนอก:
-
กระจังหน้าโครเมียมลายใหม่ทรงสี่เหลี่ยม
-
ไฟหน้า LED Matrix พร้อมระบบเปิด–ปิดอัตโนมัติ
-
กันชนหน้าทรงใหม่เพิ่มมิติและความสปอร์ต
-
ไฟท้าย LED Signature Light Bar เต็มแนว
-
ล้ออัลลอยขนาด 18–20 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
-
หลังคาทูโทนพร้อมราวหลังคา
-
ระบบเปิด–ปิดประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เตะ
ภาพรวมดีไซน์ของ Ford Everest 2025 ดูดุดัน ล้ำสมัย และให้ความรู้สึก “SUV หรูผสมรถลุย” เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและออกต่างจังหวัด
ด้านข้างของรถมีเส้นสายที่เชื่อมต่อไปยังซุ้มล้ออย่างโดดเด่น เสริมความรู้สึกมั่นคงและแข็งแกร่ง ส่วนด้านหลังได้รับการออกแบบให้สอดรับกับด้านหน้า สร้างความสมดุลและความลงตัวในทุกมุมมอง
ล้อและยางของ Ford Everest 2025 ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งในเมืองและการขับขี่ลุย ๆ พร้อมความทนทานสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรถอเนกประสงค์พร้อมสมรรถนะในการลุยทางแบบเต็มที่
ล้อยางของ Ford Everest 2025 รุ่นมาตรฐาน: ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว รุ่น Wildtrak/Platinum: ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ที่เพิ่มความพรีเมียมและความโดดเด่นล้ออัลลอยได้รับการออกแบบใหม่ ให้มีลวดลายที่สวยงามและแข็งแรง ช่วยเสริมบุคลิกของตัวรถให้ดูบึกบึนและทันสมัย นอกจากนั้นล้อผลิตจากวัสดุอัลลอยน้ำหนักเบา เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ พร้อมความทนทานในทุกสภาพการใช้งาน
โดยรวมแล้ว การออกแบบของฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2025 ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความหรูหรา ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นและน่าสนใจอย่างยิ่ง ตัวถังของ Ford Everest 2025 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความโดดเด่น ทันสมัย และตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและความสวยงามในลุคที่แข็งแกร่ง
ดีไซน์ภายใน Ford Everest 2025
ห้องโดยสารของ Everest 2025 ออกแบบภายใต้แนวคิด “Smart Premium Cabin” ที่เน้นความหรู นั่งสบาย และเทคโนโลยีครบครัน
จุดเด่นภายใน:
-
หน้าจอสัมผัสกลางแนวตั้งขนาด 12 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
-
หน้าจอมาตรวัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ 12.4 นิ้ว
-
ระบบเสียงพรีเมียม Bang & Olufsen 8 ลำโพง (ในรุ่นสูง)
-
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape
-
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์หลัง
-
เบาะหนังแท้ ปรับไฟฟ้า + ระบบระบายอากาศ
-
ช่องเก็บของขนาดใหญ่และพอร์ตชาร์จ USB ครบทุกแถว
-
หลังคา Panoramic Sunroof (เฉพาะรุ่น Platinum)
บรรยากาศในห้องโดยสารให้ความรู้สึกหรูและสบายเหมือนรถยุโรป แต่ยังคงความทนและแข็งแกร่งในแบบ Ford
Ford Everest 2025 มีจุดเด่นที่ผสมผสานระหว่างความหรูหรา ความทันสมัย และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน เหมาะสำหรับทั้งครอบครัวและการเดินทางระยะไกล โดยเฉพาะผู้ที่มองหารถที่ให้ความสบายพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยในทุกการขับขี่ ที่ตอบโจทย์ในด้านการออกแบบทุกจุดได้ตามสไตล์ของผู้ขับขี่
- วัสดุระดับพรีเมียม: ใช้วัสดุหนังแท้และวัสดุซอฟต์ทัชในบริเวณแผงคอนโซลและเบาะนั่ง ทำให้รู้สึกถึงความประณีตและพรีเมียม
- สีสันและดีไซน์ภายใน: มีให้เลือกหลายโทนสีที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เช่น สีโทนอ่อนสำหรับความหรูหรา หรือโทนเข้มสำหรับความสปอร์ต
- ไฟสร้างบรรยากาศ (Ambient Lighting): เพิ่มความอบอุ่นและทันสมัยด้วยแสงไฟที่ปรับระดับและสีได้
- พื้นที่ภายใน: ห้องโดยสารมีพื้นที่กว้างขวาง รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 คน พร้อมพื้นที่วางขาที่กว้างทั้งแถวหน้าและแถวหลัง ทำให้การเดินทางไกลสะดวกสบายมากขึ้น
- หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ: เพิ่มแสงธรรมชาติและทำให้ภายในดูโปร่งโล่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเวลากลางวัน
- เบาะแถวที่ 3: รองรับผู้โดยสารแถวหลังด้วยพื้นที่นั่งสบาย ซึ่งสามารถพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
Ford Everest 2025 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่โดดเด่นและตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมือง การเดินทางไกล และการผจญภัยในเส้นทางออฟโรด ด้วยฟังก์ชันที่เด่นกว่า และตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว เป็นรถที่เหมาะสำหรับทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง เดินทางไกล หรือการผจญภัยในเส้นทางออฟโรด ด้วยห้องโดยสารที่สะดวกสบาย เทคโนโลยีทันสมัย และสมรรถนะที่เหนือชั้น มันเป็นรถที่สามารถพาคุณไปได้ทุกที่ด้วยความมั่นใจและความสะดวกสบายสูงสุด ด้วยการออกแบบสัดส่วนบน Ford Everest 2025
- พื้นที่เก็บสัมภาระ:
- เบาะแถวที่ 3 และแถวที่ 2 พับแบนได้ เพิ่มพื้นที่เก็บของได้ถึง 1,818 ลิตร
- มีช่องเก็บของหลายตำแหน่ง เช่น คอนโซลกลาง ที่ประตู และใต้พื้นรถ
- ระบบเปิด-ปิดฝาท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี: สามารถเปิดฝากระโปรงท้ายโดยใช้เท้าแตะที่เซนเซอร์ใต้กันชน สะดวกเมื่อต้องถือของหนัก
- การเก็บเสียงยอดเยี่ยม: ด้วยการติดตั้งวัสดุซับเสียงในตัวถัง ทำให้เสียงรบกวนจากภายนอกแทบจะไม่ได้ยิน
- กระจก Acoustic Laminated Glass: ช่วยลดเสียงลมและเสียงจากถนน ทำให้การสนทนาในห้องโดยสารง่ายขึ้นและฟังเพลงได้ชัดเจนขึ้น
- ระบบปรับอากาศ 3 โซน: สามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมตามแต่ละโซนของผู้โดยสาร ทำให้ทุกคนรู้สึกสบายในแบบของตัวเอง
- หน้าจอทันสมัย: หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่และจอดิจิทัลบนแผงหน้าปัดช่วยให้การใช้งานและการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย
- ระบบเสียงระดับพรีเมียม B&O: ให้เสียงรอบทิศทางที่คมชัดและทรงพลัง เหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ส่วนตัว
- มุมมองกว้าง: ด้วยการออกแบบเบาะนั่งสูงและเสา A ที่บางลง ทำให้ผู้ขับรู้สึกมั่นใจในการมองเห็นสภาพถนนรอบตัว
- ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ: เช่น ระบบ Adaptive Cruise Control และ Lane-Keeping Assist ช่วยให้การขับขี่รู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น
- กล้องมองรอบคัน 360 องศา: เพิ่มความมั่นใจในการจอดและขับในพื้นที่แคบ
- พื้นที่เก็บของ: มีช่องเก็บของหลากหลายตำแหน่ง ทั้งในคอนโซลกลาง ประตู และที่นั่ง เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง
- ชาร์จไฟสะดวก: มีช่องชาร์จ USB และระบบชาร์จไร้สายในหลายจุด ทำให้ทุกคนสามารถใช้งานอุปกรณ์ส่วนตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ขุมพลังและสมรรถนะ Ford Everest 2025
Ford Everest 2025 มาพร้อมขุมพลังให้เลือกหลากหลาย รองรับการใช้งานทั้งบนทางเรียบและทางลุย
สเปกเครื่องยนต์:
-
2.0L Turbo Diesel
-
กำลังสูงสุด 170 แรงม้า
-
แรงบิด 405 นิวตันเมตร
-
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
-
-
2.0L Bi-Turbo Diesel
-
กำลังสูงสุด 210 แรงม้า
-
แรงบิด 500 นิวตันเมตร
-
เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
-
-
3.0L V6 Turbo Diesel (Platinum)
-
กำลังสูงสุด 250 แรงม้า
-
แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร
-
เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4WD
-
ระบบช่วงล่างของ Everest 2025 ใช้แบบ Double Wishbone ด้านหน้า และ Watt’s Link ด้านหลัง ให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยมแม้ใช้ความเร็วสูง
ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยี Ford Everest 2025
Ford Everest 2025 มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ Ford Co-Pilot360™ ที่ครอบคลุมการใช้งานจริงในทุกสภาพถนน
ฟีเจอร์หลัก:
-
ระบบเบรกอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนน (AEB with Pedestrian Detection)
-
ระบบเตือนและช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน (Lane Keeping System)
-
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control)
-
ระบบ Blind Spot Monitoring และ Cross Traffic Alert
-
ระบบกล้องมองรอบคัน 360 องศา
-
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ
-
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
-
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist)
-
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (Hill Descent Control)
ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ Ford Everest 2025 เป็นหนึ่งใน SUV ที่ปลอดภัยและขับง่ายที่สุดในตลาดไทยตอนนี้
จุดเด่น Ford Everest 2025
-
ขุมพลัง Bi-Turbo และ V6 แรงบิดมหาศาล
-
ภายในหรูหรา เทียบชั้นรถยุโรป
-
ระบบช่วยขับครบครันในทุกรุ่นสูง
-
ช่วงล่างมั่นคง นุ่ม และเกาะถนนดีเยี่ยม
-
ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นและทันสมัย
-
เหมาะทั้งการใช้งานครอบครัวและขับลุย
ข้อสังเกต Ford Everest 2025
-
ราคาสูงในรุ่นท็อป โดยเฉพาะ Platinum
-
ค่าบำรุงรักษาและอะไหล่บางส่วนอาจสูงกว่า SUV ญี่ปุ่น
-
รุ่น Turbo 2.0L อัตราเร่งอาจไม่ตอบโจทย์สายแรง
-
น้ำหนักรถค่อนข้างมาก (โดยเฉพาะรุ่น 4WD)
ปรียบเทียบ Ford Everest 2025 กับคู่แข่ง
รุ่น | จุดเด่น | จุดด้อย |
---|---|---|
Toyota Fortuner 2025 | เครือข่ายศูนย์บริการกว้าง | ขับแข็งกว่า Everest |
Isuzu MU-X | ประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงถูก | ฟีเจอร์ความปลอดภัยน้อยกว่า |
Mitsubishi Pajero Sport | ขับลุยดี ควบคุมง่าย | ภายในเริ่มล้าสมัย |
Ford Everest 2025 | เครื่องแรง ระบบช่วยขับครบ | ราคาสูงแต่คุ้มค่ากับออปชัน |
สรุป
Ford Everest 2025 คือ SUV 7 ที่นั่งที่ครบที่สุดในตลาดไทยตอนนี้ ทั้งดีไซน์ ความแรง ฟีเจอร์ และระบบความปลอดภัย เหมาะกับทั้งครอบครัวและผู้ที่ต้องการรถที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์
ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท แต่ให้สมรรถนะเหนือคู่แข่งและเทคโนโลยีระดับพรีเมียม — Everest 2025 ยังคงเป็น “SUV สายลุยระดับหรู” ที่คู่แข่งต้องจับตามอง