วิเคราะห์ Honda EV 2025 – รุ่นใหม่และอนาคตที่น่าจับตา
เมื่อพูดถึงแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นเคย Honda ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่หลายคนให้ความไว้ใจ ทั้งในเรื่องของความทนทาน การใช้งานที่ง่าย และภาพลักษณ์ที่ทันสมัย แต่ในยุคที่เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คำถามคือ… Honda พร้อมแค่ไหนกับการแข่งขันในสนามรถ EV?
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึก กลยุทธ์ EV ของ Honda, รุ่นที่วางจำหน่ายแล้วในไทย, รถต้นแบบที่กำลังจะมาในอนาคต และมุมมองวิเคราะห์ว่าฮอนด้าจะไปได้ไกลแค่ไหนในยุคพลังงานสะอาดนี้
กลยุทธ์ Honda EV – บทบาทใหม่ในโลกพลังงานไฟฟ้า
แม้ Honda จะไม่ได้เป็นแบรนด์แรก ๆ ที่กระโดดเข้ามาในตลาด EV เต็มตัวเหมือน Tesla หรือ BYD แต่พวกเขามีการวางรากฐานที่แข็งแรงและชัดเจนในด้านเทคโนโลยีมากว่า 10 ปี โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ Hybrid (HEV) อย่าง Accord Hybrid, CR-V Hybrid และ City e:HEV ซึ่งกลายเป็นสะพานเชื่อมสู่ยุค EV อย่างเต็มตัว
ในช่วงปลายปี 2024 – ต้นปี 2025 Honda ได้เปิดตัวรถยนต์ EV รุ่นแรกที่ผลิตในไทย คือ Honda e:N1 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสัญญาณว่าพร้อมจะสู้ในสนาม EV อย่างจริงจัง
Honda e:N1 – EV รุ่นแรกที่เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ
Honda e:N1 หรือชื่อในตลาดยุโรปว่า e:Ny1 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่ใช้พื้นฐานจาก HR-V แต่เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนมาเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
จุดเด่นของ Honda e:N1
-
มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร
-
แบตเตอรี่ 68.8 kWh ให้ระยะทางประมาณ 412 กม. (WLTP) และสูงสุด 500 กม. (NEDC)
-
ระบบชาร์จเร็ว DC Fast Charging จาก 10-80% ใช้เวลาราว 45 นาที
-
จอสัมผัสขนาด 15.1 นิ้ว แนวตั้ง พร้อมจอเรือนไมล์ 10.25 นิ้ว
-
ราคาเริ่มต้นที่ 1,199,000 บาท
ความเหมาะสมกับผู้ใช้ในไทย
-
รูปทรง SUV รองรับการใช้งานของคนเมือง ครอบครัวเล็ก ๆ
-
ระยะทางชาร์จเพียงพอต่อการเดินทางในชีวิตประจำวัน
-
การวางขายภายใต้ราคาล้านต้น ๆ ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า EV จากยุโรป
รถยนต์ไฟฟ้า Honda ที่กำลังจะมาในอนาคต
แม้ตอนนี้ e:N1 จะเป็นเพียงรุ่นเดียวที่จำหน่ายจริงในไทย แต่ Honda ยังมีแผนเปิดตัวรถ EV รุ่นใหม่อีกหลายรุ่นทั่วโลก ซึ่งบางรุ่นอาจมีโอกาสเข้ามาทำตลาดในไทยเช่นกัน
1. Honda Prologue (2025)
-
SUV ไฟฟ้าขนาดกลางที่พัฒนาร่วมกับ General Motors (GM)
-
ใช้แบตเตอรี่ Ultium Platform ระยะทางประมาณ 480 – 500 กม.
-
รองรับ DC Fast Charging ที่สามารถเพิ่มระยะทาง 100 กม. ใน 10 นาที
-
คาดว่าจะมีรุ่น AWD และ FWD
-
ภายในหรูหราด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ พร้อมระบบ infotainment ที่พัฒนาเอง
-
เริ่มขายในสหรัฐฯ ราคาประมาณ 2.3 – 2.5 ล้านบาท
2. Honda CR-V e:FCEV
-
เป็นรถ Plug-in Fuel Cell ใช้ไฮโดรเจนผสานแบตเตอรี่ไฟฟ้า
-
เน้นการเติมพลังงานเร็วแบบเดียวกับรถน้ำมัน
-
ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีแผนจำหน่ายในไทยหรือไม่
3. Honda 0 Series – รถรุ่นใหม่แห่งอนาคต (เปิดตัว 2026)
ในงาน CES 2025 Honda ได้เผยโฉมรถต้นแบบ 0 Series ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่
🔹 Honda 0 Saloon
-
ซีดานไฟฟ้าทรงเตี้ย กว้าง ล้ำยุค
-
ใช้ ASIMO OS ระบบควบคุมอัจฉริยะ
-
ภายในมีจอแสดงผล 5 จอ พวงมาลัยทรงสี่เหลี่ยม (Steer-by-wire)
-
รองรับระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 (L3)
🔹 Honda 0 SUV
-
ขนาดเทียบเท่า CR-V
-
มาพร้อมเวอร์ชันขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ
-
มอเตอร์แรงถึง 480 แรงม้า สำหรับรุ่น Dual-Motor
-
วิ่งได้ไกลกว่า 480 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
ทิศทางของ Honda ในตลาด EV ปี 2025–2030
แม้จะเริ่มช้ากว่าคู่แข่งหลายราย แต่ Honda มีความตั้งใจชัดเจนในการเป็นผู้เล่นรายหลักของตลาด EV ทั่วโลก โดยตั้งเป้าว่า:
-
ปี 2030: ยอดขาย EV คิดเป็น 20% ของยอดรวมทั่วโลก (เดิมตั้งไว้ 30%)
-
เน้น EV ที่เน้น “เบา ฉลาด ประหยัด” ตามคอนเซ็ปต์ “Thin, Light and Wise”
-
ปรับนโยบายเน้นการพัฒนา Hybrid (HEV) เพิ่มขึ้นอีก 13 รุ่นในช่วงปี 2027–2030
-
สร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ร่วมกับ LG ในสหรัฐฯ เพื่อความมั่นคงด้าน Supply Chain
การเปรียบเทียบ Honda EV แต่ละรุ่น
รุ่น | ประเภท | ระยะทาง (โดยประมาณ) | จุดเด่น | สถานะ |
---|---|---|---|---|
e:N1 | SUV | 412 – 500 กม. | ราคาไม่แรง, ใช้งานง่าย | วางขายในไทยแล้ว |
Prologue | SUV กลาง | 480 – 500 กม. | ขนาดใหญ่, แพลตฟอร์มใหม่, AWD | วางขายในสหรัฐฯ |
0 Saloon | ซีดาน | 480 กม. | ดีไซน์ล้ำยุค, AI OS, L3 | เปิดตัว 2026 |
0 SUV | SUV กลาง | 480 กม. | ขับเคลื่อน 4 ล้อ, มอเตอร์แรงสูง | เปิดตัว 2026 |
CR-V e:FCEV | Plug-in FCEV | – | ใช้ไฮโดรเจน เติมเร็ว | ยังไม่ทำตลาด |
จุดแข็งและจุดสังเกตของ Honda EV
✅ จุดแข็ง
-
แบรนด์เชื่อถือได้จากผู้ใช้ทั่วโลก
-
การออกแบบใช้งานง่าย ไม่หวือหวาเกินไป
-
เน้นความสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความปลอดภัย
-
ระบบไฟฟ้าตอบสนองดีเยี่ยมในรุ่น e:N1
⚠ จุดสังเกต
-
เริ่มต้นช้ากว่าคู่แข่งจีน (BYD, Neta) และ Tesla
-
ทางเลือกในไทยยังมีน้อย
-
ราคายังไม่ได้ดึงดูดใจสำหรับกลุ่มผู้เริ่มต้นใช้ EV เท่าคู่แข่งบางราย
สรุป – Honda กับบทบาทในโลก EV
Honda เริ่มต้นยุค EV อย่างมีแบบแผน ด้วยการเปิดตัว e:N1 ในไทย และ Prologue ในตลาดสหรัฐฯ โดยมีแนวโน้มจะเพิ่มรุ่น EV เข้ามาเรื่อย ๆ จนถึงปี 2030 ผ่านโครงการ Honda 0 Series
ถึงแม้จะไม่ได้เร่งเครื่อง EV แบบคู่แข่งบางราย แต่ Honda กลับเลือกแนวทางที่ยั่งยืน ค่อยเป็นค่อยไป และวางแผนสร้างระบบสนับสนุน เช่น โรงงานแบตเตอรี่, ระบบขับขี่อัตโนมัติ, และซอฟต์แวร์ควบคุมของตัวเอง
สำหรับแฟน ๆ Honda ในไทย ตอนนี้ e:N1 คือจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ และน่าจะมี EV รุ่นใหม่ ๆ ตามมาในอนาคตอีกไม่นานนัก