Mazda Biante 2026 Concept จินตนาการมินิแวนกลับมาเป็นอย่างไร

แม้ Mazda Biante จะปิดสายการผลิตไปตั้งแต่ปี 2018 แต่ชื่อของ “Biante” ยังคงเป็นหนึ่งในมินิแวนที่หลายคนพูดถึงอยู่เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่เคยใช้รุ่นนี้ เพราะมันเป็นรถที่ “นั่งสบาย ใช้จริงได้ทุกวัน เครื่องทน ขับดีแบบ Mazda” และราคาเข้าถึงง่ายกว่าคู่แข่งญี่ปุ่นอย่าง Alphard หรือ Vellfire

  

ในยุคที่รถครอบครัว 7–8 ที่นั่งกำลังกลับมาได้รับความนิยม ทั้งรถตู้, PPV, และ MPV แบบไฟฟ้า ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า

ถ้า Mazda จะปลุกชื่อ Biante ให้กลับมาในปี 2026 รหัสใหม่จะเป็นแบบไหน? และต้องมีอะไรถึงจะปังในตลาดไทย?

บทความนี้คือการ “จินตนาการ + วิเคราะห์” ทุกมุม ว่า Mazda Biante 2026 จะเกิดได้จริงไหม ถ้าเกิดขึ้น หน้าตา สเปก และราคา จะออกมาแบบไหน พร้อมเจาะโอกาสการกลับมาชนตลาดกับคู่แข่งยุคใหม่

บทนำ – ทำไม Mazda ควรพิจารณาทำ Biante รุ่นใหม่ในปี 2026?

ตลาดรถครอบครัวยุค 2024–2026 มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญ 3 อย่าง

1) ครอบครัวยุคใหม่ต้องการรถกว้าง แต่ “ไม่อยากใช้รถตู้เต็มรูปแบบ”

Alphard/Vellfire แพงขึ้นมาก
PPV ตัวใหญ่ก็นั่งไม่สบายเท่า MPV จริง
ทำให้ตลาด “MPV เบาะ 7 ที่นั่ง ขับดี นั่งสบาย” มีช่องว่างอยู่เยอะมาก

2) Mazda ยังไม่มีรถครอบครัว 7 ที่นั่งในตลาดไทย

CX-8 มี 6–7 ที่นั่งจริง แต่ราคาสูง
คนหามินิแวน Mazda ในตลาดมือสองยังเยอะทุกปี

3) การมาของเทคโนโลยี Hybrid/EV ทำให้ MPV รุ่นใหม่กลับมาน่าสนใจ

ผู้ใช้ต้องการ

• ความประหยัด

• ความนุ่ม

• พื้นที่โหลดของเยอะ

ทั้งหมดตรงกับจุดแข็งของ Biante เดิมเกือบ 100%

ดังนั้น “Mazda Biante 2026” ในมุมมองบทความนี้ จะถูกออกแบบในฐานะ มินิแวนครอบครัวยุคใหม่ระดับกลาง ราคาจับต้องง่าย และนั่งสบายที่สุดในคลาสของ Mazda

ดีไซน์ภายนอกของ Mazda Biante 2026 – จินตนาการใหม่ ใกล้เคียง CX-80 + MPV Premium Style

ถ้า Mazda ฟื้นชื่อ Biante กลับมาในปี 2026 ดีไซน์ภายนอกน่าจะยึดแนวทางใหม่ของ Mazda ที่เน้นความเรียบแต่หรูแบบ Kodo Design รุ่นใหม่

องค์ประกอบที่น่าจะเกิดขึ้นจริง

• ไฟหน้า LED ทรงยาว สไตล์เดียวกับ CX-60 / CX-80

• เส้นฝากระโปรงเรียบ แต่มีเหลี่ยมสไตล์พรีเมียมยุโรป

• กระจังหน้า Signature Wing โฉมใหม่

• ตัวรถสูงและยาวกว่า Biante เดิม 10–20%

• เสา A แบบล้ำไปด้านหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสาร

• ประตูสไลด์แบบไฟฟ้าทั้งสองฝั่ง (ต้องมีเพื่อแข่งขันกับ MPV Hybrid)

• หลังคาแบบ Flat Roof เพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะ

• ล้ออัลลอยขนาด 18–19 นิ้ว

• ไฟท้าย LED แนวยาวเต็มคัน

ภาพรวมของ Biante 2026 แบบจินตนาการนี้ จะเป็น MPV ที่ “ทันสมัยแบบ Mazda + อารมณ์รถครอบครัวแบบญี่ปุ่น” และเน้นไปที่ความเรียบหรูมากกว่าเน้นลุคสปอร์ต

ภายใน Mazda Biante 2026 – ห้องโดยสารแบบ Lounge 7–8 ที่นั่ง สบายเหมือน First Class

หัวใจของมินิแวนคือ “ห้องโดยสาร” ดังนั้น Mazda จะต้องออกแบบภายในให้ดีกว่ารุ่นก่อนแบบก้าวกระโดด

สิ่งที่คาดว่าจะปรากฏใน Biante 2026

1) เบาะ 3 แถวแบบ Captain Seat

• เบาะคู่หน้า + เบาะแถวสองแบบ Captain Seat พร้อมที่วางแขน

• แถวสามพับได้แบนราบ

• นั่งสบายกว่า CX-8 ด้วยพื้นที่เหนือศีรษะที่สูงกว่า

2) หน้าจอ Infotainment ใหม่ 12.3 นิ้ว

รองรับ

• Wireless Apple CarPlay

• Wireless Android Auto

• ระบบเสียง Bose 12 ลำโพง

3) วัสดุภายในระดับพรีเมียม

• หนัง Nappa เกรดเดียวกับ CX-60

• แผงคอนโซลหุ้มวัสดุนุ่ม

• ไฟ Ambience Light รอบห้องโดยสาร

4) ห้องโดยสารเงียบ

ด้วยเทคโนโลยี NVH รุ่นใหม่ของ Mazda

5) พื้นที่เก็บสัมภาระใหญ่

เพราะตัวรถทรงกล่องกว้างกว่า Crossover

ขุมพลัง Mazda Biante 2026 – คาดการณ์ว่าต้องเป็น Hybrid หรือ EV ตามทิศทาง Mazda

Mazda ประกาศชัดเจนแล้วว่าในปี 2030 จะเข้าสู่ยุครถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ดังนั้นถ้า Biante กลับมาในปี 2026 จะมี 3 ทางเลือกขุมพลังที่เป็นไปได้

1) เครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.5L (เหมือน CX-70 / CX-90)

• กำลังรวมประมาณ 190–240 แรงม้า

• ประหยัดน้ำมันสูง

• เหมาะกับรถครอบครัว 7–8 ที่นั่ง

• แรงบิดสูงสำหรับวิ่งทางไกล

นี่คือทางเลือกที่ “เป็นไปได้มากที่สุด” เพราะ Mazda เริ่มเน้น Hybrid มากขึ้น

2) ขุมพลัง Mild Hybrid 2.0 Skyactiv

เหมาะกับรุ่นเริ่มต้น ราคาคุ้มค่า

3) รุ่น EV ล้วน (Biante EV)

เป็นไปได้แต่โอกาสน้อยกว่า
เพราะ Mazda ยังไม่มีแพลตฟอร์ม EV ขนาดใหญ่สำหรับ MPV
แต่ตลาด EV ญี่ปุ่นอาจบีบให้ Mazda ต้องเร่งทำ MPV EV
กรณีนี้ Biante อาจได้แบต 60–70 kWh ระยะวิ่ง 350–420 กม.

เทคโนโลยีความปลอดภัย – i-Activsense ครบระบบ

ถ้า Biante 2026 เกิดขึ้นจริง จะต้องมีฟีเจอร์เหล่านี้

• Adaptive Cruise Control

• Lane Centering

• Blind Spot Monitoring

• Rear Cross Traffic Alert

• ระบบเบรกอัตโนมัติ

• กล้อง 360º 3D

• ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ

ทั้งหมดนี้ต้องมีครบ เพราะคู่แข่ง MPV Hybrid ในไทยให้มาเต็มเกือบหมดแล้ว

Biante 2026 ในมุมตลาดไทย – ถ้ามาเปิดจริงจะชนใคร?

ในปี 2026 ตลาดมินิแวนไทยจะถูกแบ่งเป็นดังนี้

กลุ่มราคา 1–1.5 ล้านบาท

• Toyota Voxy

• Nissan Serena e-Power

• Mitsubishi Xpander Hybrid (7 ที่นั่ง)

กลุ่มราคา 1.5–2 ล้านบาท

• Toyota Innova Zenix Hybrid

• Kia Carnival 2.2

• Hyundai Custin

Mazda Biante 2026 จะต้องอยู่ในเรท 1.3–1.7 ล้านบาท เพื่อชนรุ่นยอดนิยมตรงกลางพอดี

จุดขายของ Mazda Biante 2026 หากเปิดจริง

1) ขับดีกว่า MPV ญี่ปุ่นทุกรุ่น

เพราะพื้นฐานของ Mazda เน้นการควบคุมรถ (Handling) ดีกว่าคู่แข่งทุกคันในคลาส

2) ห้องโดยสารกว้าง สบายจริง

เพดานสูง เบาะสบาย — กลุ่มครอบครัวไทยชอบมาก

3) ขุมพลัง Hybrid หรือ EV

ประหยัดกว่า PPV และเหมาะกับการใช้งานในเมือง

4) ภาพลักษณ์แบรนด์พรีเมียม

Mazda มีภาพลักษณ์ “พรีเมียมแบบกำลังดี” ราคาจับต้องได้

5) ฟีเจอร์ครบ

Mazda ต้องจัดเต็มเหมือน CX-60 / CX-80

จุดท้าทายถ้า Biante 2026 จะกลับมาจริง

• ตลาด MPV ในไทยไม่ใหญ่เท่า PPV

• Mazda ยังไม่เคยทำ Hybrid Minivan มาก่อน

• หากราคาใกล้ Innova Zenix คู่แข่งจะหนักมาก

• Mazda ต้องเปิดโรงงานผลิตในไทยหรืออินโดเพื่อให้แข่งขันราคาได้

Mazda Biante 2026 เหมาะกับใคร?

• ครอบครัวที่ต้องการรถนั่งสบาย 7–8 ที่นั่ง

• ผู้ที่ต้องการทางเลือกแทน PPV ที่นั่งแข็ง

• ผู้ที่อยากได้รถครอบครัวพรีเมียม ไม่แพงเท่า Alphard

• คนที่ต้องการ Hybrid/EV เพื่อครอบครัว

• องค์กร โรงเรียน โรงแรม ที่ต้องการรถรับส่ง

สรุป – Mazda Biante 2026 ถ้าเกิดขึ้นจริง จะเป็นมินิแวนที่คุ้มค่าที่สุดของ Mazda

จากการรวบรวมข้อมูล แนวโน้มเทคโนโลยี และภาพรวมตลาด Mazda Biante 2026 น่าจะเป็นรถ MPV ครอบครัวพรีเมียมราคากลาง ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ครบทุกด้าน
ทั้งความสบาย สมรรถนะ การออกแบบ และระบบความปลอดภัย

ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีประกาศทางการ แต่โอกาสของ “มินิแวน Mazda ยุคใหม่” มีความเป็นไปได้สูงในช่วงปี 2026–2028 เพราะ Mazda ต้องการเติมช่องว่างในตลาดรถครอบครัวที่กำลังเติบโต

ถ้า Mazda เปิด Biante 2026 จริง
นี่จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Toyota Voxy และ Innova Zenix อย่างแน่นอน