Mazda EZ-6 2025 พรีเมียม ดีไซน์ Kodo ระยะวิ่งไกล ราคาคุ้มค่า
Mazda EZ-6 คือหนึ่งในก้าวย่างสำคัญของ Mazda ในการเดินหน้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยเปิดตัวครั้งแรกในงาน Beijing Auto Show 2024 พร้อมสร้างความฮือฮาด้วยการนำเสนอทั้งรุ่น EV (BEV) และ EREV (Range Extender EV) เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่น รถรุ่นนี้ยังถือว่าเป็น Global Model ที่ Mazda ตั้งใจปูทางทำตลาดไปทั่วโลก ไม่ใช่เพียงจีนเท่านั้น
Mazda EZ-6 ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นซีดานที่ผสมผสาน ความหรู ความสปอร์ต และความล้ำสมัย เอาไว้ในคันเดียว เส้นสาย Kodo Design ที่ทุกคนคุ้นเคยยังคงอยู่ แต่เพิ่มเติมความโมเดิร์นในสไตล์ EV ที่ดูเรียบหรูและแตกต่างจากคู่แข่ง
ดีไซน์ภายนอก – เรียบหรูในสไตล์ Kodo Design
Mazda ขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบที่สวยงามสะดุดตา และใน EZ-6 ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดังกล่าวไว้ครบถ้วน
-
กระจังหน้าแบบปิด (Shut-off Grille) บ่งบอกความเป็น EV
-
ไฟหน้า LED Adaptive ดีไซน์เรียวเฉียบ
-
ตัวถังยาวกว่า 4.9 เมตร ฐานล้อ 2,900 มม. ให้บุคลิกพรีเมียมใกล้เคียงรถยุโรป
-
เส้นสายตัวถังลื่นไหล สะท้อนความเป็นซีดานหรูสมัยใหม่
-
ชุดแต่ง Elegant Sport / Premium Sport ในรุ่นสูง ที่มีสปอยเลอร์และดีไซน์สปอร์ตชัดเจน
การออกแบบโดยรวมทำให้ Mazda EZ-6 ดูพรีเมียมไม่แพ้ Tesla Model 3 หรือ BYD Seal ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรง
ห้องโดยสาร – หรูหรา ทันสมัย พร้อมเทคโนโลยี
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องโดยสาร คุณจะสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ Mazda ต้องการเน้นไปสู่ความพรีเมียมระดับใหม่
-
หน้าจอสัมผัสกลาง 14.6 นิ้ว ใช้ชิป Snapdragon 8155 ทำงานลื่นไหล
-
หน้าจอ Head-Up Display แบบ AR ขนาด 50 นิ้ว แสดงผลเต็มตา
-
ระบบเสียง Sony 14 ลำโพง พร้อม Ambient Light 64 สี
-
หลังคา Panoramic Glass Roof ที่ช่วยให้ห้องโดยสารโปร่งสบาย
-
เบาะ Zero-Gravity ดีไซน์ให้รองรับสรีระและเพิ่มความสบายในการเดินทางไกล
-
วัสดุพรีเมียม เช่น หนังแท้ โทน Chestnut Brown และ Egret White
การออกแบบภายในชัดเจนว่า Mazda ตั้งใจให้ EZ-6 เป็นรถสำหรับทั้งนักธุรกิจและครอบครัวที่ต้องการความหรูและเทคโนโลยีครบครัน
ระบบขับเคลื่อนและสมรรถนะ
รุ่นไฟฟ้า (BEV)
-
ใช้แบตเตอรี่ LFP 56.1 kWh และ 68.8 kWh
-
มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 190 kW (255 hp)
-
ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
-
ระยะทางวิ่ง 480–600 กม./ชาร์จ (CLTC)
-
รองรับการชาร์จเร็ว DC ที่ใช้เวลา 30–40 นาทีจาก 20–80%
รุ่น Long Range (NMC)
-
ใช้แบตเตอรี่ NMC 80 kWh
-
มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 180 kW (245 hp)
-
ระยะทางวิ่ง 552 กม. WLTP
รุ่น EREV (Range Extender EV)
-
ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรเป็นตัวปั่นไฟ
-
แบตเตอรี่ LFP 18.99 kWh และ 28.39 kWh
-
ระยะทางไฟฟ้าเพียว 130–200 กม.
-
เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นใจ ไม่กังวลเรื่องชาร์จไฟบ่อย
เทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยขับ
Mazda EZ-6 มาพร้อมระบบ ADAS Level 2.5 ที่ช่วยขับอัตโนมัติในบางสถานการณ์ เช่น การวิ่งบนไฮเวย์
-
ระบบ Adaptive Cruise Control
-
ระบบ Lane Keeping Assist
-
ระบบเบรกอัตโนมัติฉุกเฉิน (AEB)
-
กล้องมองรอบคัน 360 องศา
-
ระบบจอดรถอัตโนมัติแบบควบคุมด้วยเสียง (Voice Parking Assist)
สิ่งเหล่านี้ทำให้ EZ-6 ไม่ใช่แค่รถ EV ธรรมดา แต่เป็นรถที่พร้อมสำหรับการใช้งานจริงในยุคใหม่
ราคาและการทำตลาด
Mazda วางราคา EZ-6 ให้แข่งขันได้อย่างมากในตลาดจีนและคาดว่าจะต่อยอดไปตลาดยุโรป
-
รุ่น EREV ราคาเริ่มต้นประมาณ $19,600 – $23,800
-
รุ่น BEV ราคาอยู่ที่ $22,400 – $25,200
-
หากนำเข้ามาไทย คาดว่าราคาอาจอยู่ในช่วง 1.2 – 1.6 ล้านบาท (ก่อนภาษีนำเข้า)
ราคาที่เข้าถึงได้ทำให้ EZ-6 กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Tesla Model 3, BYD Seal และ Nio ET5 ในตลาดโลก
เปรียบเทียบกับคู่แข่ง
-
Tesla Model 3 – เน้นเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ แต่ Mazda มีการออกแบบและงานประกอบหรูหรากว่า
-
BYD Seal – ระยะวิ่งไกลกว่า แต่ EZ-6 ได้เปรียบด้านดีไซน์และภาพลักษณ์พรีเมียม
-
Nio ET5 – ระบบเทคโนโลยีล้ำ แต่ราคาสูงกว่า EZ-6 อย่างชัดเจน
จุดเด่นของ Mazda EZ-6
-
ดีไซน์ Kodo ที่ล้ำสมัยและหรู
-
ตัวเลือกทั้ง BEV และ EREV ครอบคลุมทุกความต้องการ
-
ห้องโดยสารหรูหรา เทคโนโลยีจัดเต็ม
-
ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
-
สมรรถนะขับขี่มั่นใจ ระบบ RWD และ AWD
-
เทคโนโลยีความปลอดภัย ADAS ระดับ 2.5
สรุป
Mazda EZ-6 2025 คือการเปิดศักราชใหม่ของ Mazda บนเส้นทาง EV ด้วยรถซีดานที่ไม่เพียงแค่เป็นพลังงานไฟฟ้า แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Mazda ทั้งด้านดีไซน์ ความหรู และสมรรถนะที่เน้นการขับขี่สนุก เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้
ไม่ว่าจะเปรียบเทียบกับ Tesla, BYD หรือค่ายยุโรป Mazda EZ-6 ก็ยืนหนึ่งในฐานะ EV ซีดานที่ “ครบเครื่อง” และพร้อมจะเป็นตัวเลือกที่หลายคนรอคอยในปี 2025