Mazda RX-7 – ตำนานสปอร์ตโรตารีที่ไม่เคยตาย
ถ้าพูดถึงรถสปอร์ตที่กลายเป็นตำนานในใจคนรักความเร็วทั่วโลก Mazda RX-7 คือชื่อที่ถูกยกขึ้นมาเสมอ ด้วยการออกแบบสุดล้ำในยุค 80–90 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์โรตารี (Rotary Engine) อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Mazda รถรุ่นนี้ไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้ค่ายจากญี่ปุ่น แต่ยังกลายเป็นหนึ่งใน “Icon” ของวัฒนธรรมรถ JDM (Japanese Domestic Market) ที่ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน
จุดกำเนิดของ Mazda RX-7
Mazda เปิดตัว RX-7 รุ่นแรกในปี 1978 เพื่อสานต่อความสำเร็จของ RX-3 และ RX-5 โดยจุดเด่นคือเครื่องยนต์โรตารี Wankel ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ให้กำลังสูงกว่าขนาดเครื่องยนต์จริง รถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นสปอร์ตคูเป้ที่ทั้งขับสนุก น้ำหนักเบา และราคาเข้าถึงได้
RX-7 มีทั้งหมด 3 เจเนอเรชันหลัก ได้แก่
-
FB (1978–1985) – รุ่นแรก น้ำหนักเบา ดีไซน์เรียบง่าย สไตล์สปอร์ตยุค 80
-
FC (1986–1991) – ปรับดีไซน์ให้โฉบเฉี่ยวขึ้น เพิ่มเทอร์โบและระบบกันสะเทือนที่พัฒนาขึ้น
-
FD (1992–2002) – รุ่นที่โด่งดังที่สุด มาพร้อมดีไซน์โค้งมนสวยงามและเครื่องยนต์โรตารี 13B-REW เทอร์โบคู่
ดีไซน์ภายนอก – เอกลักษณ์เหนือกาลเวลา
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ RX-7 กลายเป็นตำนานก็คือ ดีไซน์ โดยเฉพาะรุ่น FD ที่ออกแบบโค้งมนลู่ลมเหมือนรถซูเปอร์คาร์ในยุคนั้น
-
ฝากระโปรงยาวพร้อมไฟหน้า Pop-up สุดคลาสสิก
-
เส้นสายโค้งมนที่เน้นความสปอร์ต
-
สปอยเลอร์หลังที่ช่วยเพิ่มแรงกด
-
ตัวถังน้ำหนักเบาใช้อลูมิเนียมบางส่วน
ดีไซน์ของ RX-7 FD ยังคงดูทันสมัยจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นที่นิยมในกลุ่มแต่งรถ โดยเฉพาะในวงการ Drift และ Drag Racing
ภายในห้องโดยสาร – สปอร์ตที่ขับได้ทุกวัน
Mazda RX-7 ไม่ได้เน้นหรูหรา แต่เน้นให้คนขับสัมผัสได้ถึงความเป็นสปอร์ตเต็มรูปแบบ
-
เบาะทรงสปอร์ตโอบกระชับ
-
มาตรวัดรอบใหญ่เด่นชัดกลางคอนโซล
-
พวงมาลัยและเกียร์ที่ตอบสนองฉับไว
-
คอนโซลเอียงเข้าหาคนขับเพื่อความสะดวก
แม้จะเป็นรถสปอร์ต แต่ RX-7 ก็ยังถูกออกแบบให้ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะรุ่นแรก ๆ ที่มีห้องโดยสารกว้างพอสำหรับการขับขี่ทางไกล
หัวใจ – เครื่องยนต์โรตารี
สิ่งที่ทำให้ RX-7 แตกต่างจากรถสปอร์ตญี่ปุ่นรุ่นอื่น ๆ ก็คือ เครื่องยนต์โรตารี (Rotary Engine)
-
รุ่น FB ใช้เครื่องยนต์ 12A และ 13B ให้กำลังราว 100–135 แรงม้า
-
รุ่น FC มี 13B-Turbo ให้กำลังสูงสุดราว 200 แรงม้า
-
รุ่น FD ใช้เครื่องยนต์ 13B-REW เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 276 แรงม้า (ตามข้อกำหนด Gentlemen’s Agreement ของญี่ปุ่น) แต่เมื่อตกแต่งสามารถทำได้เกิน 500–600 แรงม้า
Rotary Engine มีจุดเด่นคือให้รอบจัด เสียงเฉพาะตัว และน้ำหนักเบา แต่ก็มีข้อเสียคือสิ้นเปลืองน้ำมันและต้องดูแลบำรุงรักษามากกว่ารถทั่วไป
RX-7 ในวัฒนธรรมรถยนต์
Mazda RX-7 ไม่ได้เป็นเพียงรถสปอร์ตธรรมดา แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ในวัฒนธรรมรถยนต์
-
Fast & Furious – RX-7 ของ Dom Toretto (สีแดง) และ Han (สีส้ม Veilside) คือหนึ่งในรถที่แฟนหนังจดจำได้
-
Initial D – การ์ตูน/อนิเมะชื่อดัง มีตัวละคร Ryosuke และ Keisuke ที่ใช้ RX-7 FC และ FD ในการดริฟต์บนภูเขา
-
วงการ Motorsport – RX-7 ถูกใช้แข่งทั้ง Le Mans, Touring Car และ Drift Championship
ทั้งหมดนี้ทำให้ RX-7 เป็นที่รักของคนรักรถทั่วโลก
ตลาดมือสองและความนิยมในปัจจุบัน
แม้ Mazda RX-7 จะหยุดผลิตไปตั้งแต่ปี 2002 แต่ความนิยมยังสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรุ่น FD ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด ราคามือสองในตลาดญี่ปุ่นและสหรัฐพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
-
RX-7 FD สภาพดี ราคาอาจแตะ 2–3 ล้านบาท
-
รุ่นแต่ง Veilside หรือรถที่มีประวัติพิเศษ ราคาสูงถึง 5 ล้านบาทขึ้นไป
ในไทยเอง RX-7 FD ยังเป็นรถในฝันของหลายคน แม้ค่าบำรุงรักษาจะสูง แต่ก็ยังมีแฟนคลับจำนวนมาก
ความเป็นไปได้ของการกลับมา
Mazda เคยโชว์รถต้นแบบ Mazda RX-Vision และมีข่าวลือเกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องยนต์โรตารีเจเนอเรชันใหม่สำหรับรถสปอร์ต แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มี RX-7 รุ่นใหม่จริง ๆ ออกมา หลายคนคาดว่า Mazda อาจนำโรตารีกลับมาในรูปแบบ Range Extender สำหรับ EV แทน
จุดเด่นของ Mazda RX-7
-
ดีไซน์สปอร์ตเหนือกาลเวลา โดยเฉพาะรุ่น FD
-
เครื่องยนต์โรตารีเฉพาะตัว ขับสนุก เสียงเร้าใจ
-
น้ำหนักเบา ควบคุมง่าย ตอบสนองดี
-
เป็นไอคอนในวัฒนธรรมรถยนต์ JDM
-
มูลค่าตลาดมือสองเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สรุป
Mazda RX-7 คือรถสปอร์ตในตำนานที่ผสมผสานความแรง ความสวย และความเป็นเอกลักษณ์จากเครื่องยนต์โรตารี แม้จะมีข้อเสียเรื่องการบำรุงรักษา แต่ก็ไม่สามารถลดคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมรถยนต์ได้ หากพูดถึงรถ JDM ที่แฟนรถทั่วโลกใฝ่ฝัน RX-7 คือหนึ่งในชื่ออันดับต้น ๆ ที่ไม่มีวันถูกลืม