Autotirechecking สเปคและราคายางอัพเดตล่าสุด TOP CHART ยางรถยนต์ - ยางรถยนต์ขอบ 13" - ยางรถยนต์ขอบ 14 " - ยางรถยนต์ขอบ 15 " - ยางรถยนต์ขอบ 16 " - ยางรถยนต์ขอบ 17 " - ยางรถยนต์ขอบ 18 " - ยางรถยนต์ขอบ 19 " - ยางรถยนต์ขอบ 20 " - ยางรถยนต์ขอบ 21 " - ยางรถยนต์ขอบ 22 " ราคาและสเปคล้อแม็ก ราคาและสเปคแบตเตอรี่ ตารางผ่อนรถ โปรโมชั่น - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 14 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 15 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 16 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 17 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 18 " ติดต่อโฆษณา

MICHELIN LTX FORCE vs YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 วัดกันหมัดต่อหมัดสำหรับสาย All-terrain

MICHELIN LTX FORCE vs YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 วัดกันหมัดต่อหมัดสำหรับสาย All terrain

สำหรับยางรถกระบะและยางรถยนต์แบบ SUV นั้น เป็นยางที่สามารถขายได้ดีที่สุดในตลาดรถเมืองไทย (ก็แหงสิครับ เพราะรถที่ขายดีที่สุดในไทย คือรถกระบะนี่น่า) วันนี้ทาง autotirechecking.com ก็ขอยกยางแนว All-terrain สองรุ่นที่น่าจับตามองในตลาดยางรถยนต์อย่าง MICHELIN LTX FORCE และ YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 มาเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่าง ทั้งฟีเจอร์ เทคโนโลยีการผลิต และราคาที่วางจำหน่ายกัน ว่าตัวไหนเป็นอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนนำไปเลือกซื้อเลือกใช้งานกันครับ

MICHELIN LTX FORCE เป็นยาง All-terrain จากค่ายมิชลินแบรนด์ดัง ที่เพิ่งเปิดตัวมาเมื่อปีก่อนราว ๆ เดือน 8 ปี 2017 สำหรับรถอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ และกระบะยกสูงซึ่งตอบสนองทุกความต้องการใช้งานของผู้ขับขี่ด้วยการผสานคุณสมบัติและสมรรถนะของยางทางเรียบและยางออฟโรดเข้าด้วยกันครับ ส่วน YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 เป็นยางเปิดตัวเมื่อเดือน 6 ปี 2016 ครับ  หรับรถอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ และกระบะยกสูงเช่นกัน โดยมีการรวมความสามารถในการใช้บนถนนเรียบจนไปถึงออฟโรด

คอนเซ็ป

MICHELIN LTX FORCE vs YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 วัดกันหมัดต่อหมัดสำหรับสาย All terrain

MICHELIN LTX FORCE เป็นยางที่มิชลินตั้งใจทำออกมาสำหรับการใช้งานในเมืองและการใช้งานออฟโรดปานกลาง เรียกง่าย ๆ ว่าพร้อมไปทั้งทางเรียบทางลุยนั่นเองครับ ด้วยสูตรเนื้อยางที่มีความทนทานเป็นพิเศษ ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากยางที่ใช้ในการแข่งขัน WRC คุ้มค่าและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยรุ่นรถยนต์ที่ใช้กับ LTX FORCE ได้จะประกอบไปด้วย Toyota Fortuner, Mitsubishi Pajero Sport, Isuzu MU-X และปิกอัพยกสูง เช่น Toyota Revo, Mitsubishi Triton, Ford Ranger และ Isuzu D-MAX มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 15 – 18 นิ้ว

MICHELIN LTX FORCE vs YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 วัดกันหมัดต่อหมัดสำหรับสาย All terrain

YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 พัฒนาขึ้นด้วยประสบการณ์จากสนามแข่งทางฝุ่นอย่าง Asia Cross Country Rally และ Baja 1000 ทำให้ได้เนื้อยางที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดี และโครงสร้างยางที่แข็งแรงทนทาน ดอกยางและไหล่ยางออกแบบให้มีความดุดัน มีรุ่นตัวหนังสือขาวให้เลือกมากขึ้น รวม 10 ขนาด ยางมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น มีการยึดเกาะถนนที่ดีทั้งบนถนนเปียกและทางออฟโรด พร้อมเพิ่มความนุ่มนวลและลดเสียงรบกวน  โดยรุ่นรถยนต์ที่ใช้กับ YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 ได้จะประกอบไปด้วย Toyota Fortuner, Mitsubishi Pajero Sport, Isuzu MU-X และปิกอัพยกสูง เช่น Toyota Revo, Mitsubishi Triton, Ford Ranger และ Isuzu D-MAX มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 16 – 17 นิ้ว

รูปลักษณ์

MICHELIN LTX FORCE vs YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 วัดกันหมัดต่อหมัดสำหรับสาย All terrain

MICHELIN LTX FORCE มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่โหด แต่ก็ไม่ได้สุดเท่าไหร่นะครับ ยังคงความเรียบหรูให้กับตัวยางเอาไว้ด้วยเช่นเดิม ตามสไตล์ของมิชลิน ดอกยางออกแบบให้สวนทาง โดยออกแบบเป็นแบบบล็อก ๆ ไป ส่วนแก้มยางนั้น ค่อนข้างสวยงามดุดันกับการออกแบบให้พร้อมที่จะตะกุยดินโคลนในสภาวะถนนแบบออฟโรด

 

MICHELIN LTX FORCE vs YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 วัดกันหมัดต่อหมัดสำหรับสาย All terrain

YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 มาพร้อมกับการออกแบบที่ไม่ได้ดูดุน้อยลงไปกว่า LTX FORCE เลย โดย YOKOHAMA G015 จะมีลายยางด้านข้างให้เลือกเป็นทั้งสีดำและสีขาว ดูสวยงามดุดันไปอีกแบบ ดอกยางออกแบบแบ่งแยกกันเป็นบล็อก ๆ พร้อมตะกุยในทุกสภาวะถนน เช่นเดียวกับแก้มยางที่จะมีดอกยางไว้ตะกุย ดูดิบโหดกว่า LTX พอสมควรเลยครับ

ฟีเจอร์ & เทคโนโลยีการผลิต

MICHELIN LTX FORCE vs YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 วัดกันหมัดต่อหมัดสำหรับสาย All terrain

MICHELIN LTX FORCE พยายามชูโรงในเรื่องของความเงียบด้วยเทคโนโลยี CushionGuard Technology ช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือน / ลดแรงกระแทกจากพื้นถนน ด้วยการออกแบบชั้นเนื้อยางใต้ฐานดอกยางที่มีความหนาเพิ่มขึ้น ที่สามารถให้ความนุ่มสบายตลอดการขับขี่ อีกทั้งยังมี Bevel tread blocks design ช่วยลดเสียงไม่ให้ส่งเข้าไปยังห้องโดยสาร ด้วยการออกแบบขอบลายดอกยางแบบหลบมุม เพิ่อช่วยตัดและกระจายความถี่ของเสียง

อีกทั้งยังได้ชูโรงในเครื่อง เกาะถนนดีเยี่ยมบนทางลุย และลดปัญหาเรื่องติดหล่ม ด้วยเทคโนโลยี RallyForce เกาะถนนเป็นเยี่ยมและมีความทนทานเป็นพิเศษ ด้วยสูตรเนื้อยางที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากการแข่งขัน เวิลด์ แรลลี่ แชมเปี้ยนชิพ อีกทั้งยังช่วยลดความเสียหายจากการบาดตำขณะใช้งานบนทางออฟโรด Shoulder traction design เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะมากขึ้นบนสภาพพื้นผิวที่เป็นดินหรืออ่อนนุ่ม ด้วยการออกแบบร่องที่ไหล่แบบเปิดและลึก Extend sidewall biting edge เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะด้านข้างบนสภาพพื้นผิวที่เป็นดินหรืออ่อนนุ่ม ด้วยการออกแบบแก้มยางที่หนาขึ้น 1.5 มิลลิเมตรและการออกแบบมุมองศาของดอกยางเพื่อช่วยในการจิกตะกุย

MICHELIN LTX FORCE vs YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 วัดกันหมัดต่อหมัดสำหรับสาย All terrain

YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 ชูโรงในเรื่องของความคงทนแข็งแรง ด้วย Enduro Compound ที่เป็นส่วนผสมเฉพาะของ YOKOHAMA โดยเฉพาะ และยังใช้เทคนิคดอกยาง 3 ชั้น ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวขึ้นไปอีก การระบายน้ำก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ YOKOHAMA G015 ทำได้ดีกับร่องระบายน้ำใหญ่ 3 ร่อง

ขนาดและราคา

MICHELIN LTX FORCE สเปคและราคาทั้งหมด

MICHELIN LTX FORCE vs YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 วัดกันหมัดต่อหมัดสำหรับสาย All terrain

YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 สเปคและราคาทั้งหมด

MICHELIN LTX FORCE vs YOKOHAMA GEOLANDAR AT G015 วัดกันหมัดต่อหมัดสำหรับสาย All terrain

Top