Nissan Juke 2025 คืนชีพของ SUV ดีไซน์ล้ำพร้อมขุมพลังไฮบริด

ถ้าใครยังจำภาพของรถยนต์ทรงล้ำที่เคยสร้างกระแสในวงการ SUV เมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Nissan Juke ติดอยู่ในใจแน่นอน รถเล็กทรงแปลกแต่โดนใจ ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ยังขับสนุก น้ำหนักเบา และเป็นมิตรกับผู้ใช้เมือง

ในปี 2025 นี้ Nissan Juke กลับมาอีกครั้ง พร้อมดีไซน์ใหม่ เทคโนโลยีใหม่ และเครื่องยนต์แบบไฮบริดที่ประหยัดยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเพิ่มรุ่นแต่งพิเศษอย่าง N-Sport ที่แต่งจัดเต็ม ทั้งภายนอกและภายในแบบสปอร์ตเอาใจคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ

แม้ในไทยยังไม่มีการยืนยันว่าจะกลับเข้ามาทำตลาด แต่ Juke 2025 ก็เป็นรถที่สาย SUV สายแฟต้องรู้จักไว้ เพราะนี่คือคำนิยามของ “รถเล็กทรงล้ำ ที่จริงจังทั้งสไตล์และเทคโนโลยี”

ราคาคาดการณ์ และขายไหม

ณ ตอนนี้ Nissan Juke 2025 เปิดตัวแล้วในหลายประเทศในยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 25,000 ปอนด์ หรือราว 1.1 ล้านบาท และในรุ่นท็อปอย่าง N-Sport จะอยู่ที่ประมาณ 29,000 ปอนด์ หรือราว 1.3 ล้านบาท

สำหรับตลาดไทย แม้จะยังไม่มีแผนการนำเข้าขายอย่างเป็นทางการ แต่ความนิยมในกลุ่มรถ B-SUV ที่กำลังกลับมาแรงในไทย อาจทำให้ Juke มีโอกาสกลับมาแบบนำเข้า หรือขายในบางล็อตพิเศษ เหมือนที่เคยเกิดกับ Kicks e-POWER

หากมีการวางจำหน่ายในไทย คาดว่าราคาจะอยู่ที่ราว 1.1 – 1.3 ล้านบาท ซึ่งจะชนตรงกับคู่แข่งอย่าง Toyota Yaris Cross, Honda HR-V และ Mazda CX-3

รูปลักษณ์

แม้จะเป็น Juke รุ่นใหม่ แต่ Nissan ยังคงเอกลักษณ์ของ Juke เอาไว้อย่างชัดเจน เส้นสายแปลกตา โคมไฟหน้าแยกสองชั้น ไฟบนเรียวยาว ไฟหลักทรงกลม และแนวหลังคาลาดเทแบบรถสปอร์ต

ไฮไลต์ภายนอก:

• ไฟหน้าแบบ Hi-Tech Y-Beam LED ทรงโฉบเฉี่ยว พร้อม DRL สุดล้ำ

• กระจังหน้า V-Motion เวอร์ชันใหม่ ดีไซน์เข้มกว่ารุ่นเดิม

• ล้ออัลลอย 19 นิ้ว สำหรับรุ่น N-Sport ลายสปอร์ตเฉพาะตัว

• มือจับประตูหลังซ่อนไว้ที่เสากลาง C-Pillar ให้ลุคเหมือนรถ 2 ประตู

• สีเหลืองสด “Sunburst Yellow” กลับมาอีกครั้ง สร้างเอกลักษณ์ของ Juke

Juke 2025 ยังคงรักษาความ “แหวก” ไว้ในทุกมุมมอง แต่มาพร้อมความทันสมัยแบบยุโรปมากขึ้น ช่วยให้ภาพลักษณ์ของรถดูทั้งวัยรุ่นและพรีเมียมในเวลาเดียวกัน

สเปค

เครื่องยนต์หลักมี 2 ทางเลือก

1. เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร DIG-T (Turbo)

• 3 สูบ เทอร์โบ

• กำลังสูงสุด: 114 แรงม้า

• แรงบิด: 200 นิวตันเมตร

• เกียร์: เกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือ DCT 7 สปีด

• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ประมาณ 10.7 วินาที

• อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย: 5.8 ลิตร / 100 กม.

2. ระบบไฮบริด (Hybrid 1.6L)

• เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า

• กำลังรวม: 143 แรงม้า

• แรงบิดรวม: 148 นิวตันเมตร

• เกียร์: Multi-Mode automatic

• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 10.1 วินาที

• อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย: 4.7 ลิตร / 100 กม.

ระบบไฮบริดของ Juke 2025 เน้นความประหยัดและความเงียบในการขับขี่ในเมือง เหมาะกับผู้ใช้ที่อยากขยับจากรถเล็กไปสู่รถ SUV แต่ยังต้องการความคล่องตัวและคุ้มค่า

ภายในห้องโดยสาร

เปิดประตูเข้ามาภายใน Juke 2025 ความประทับใจแรกคือความทันสมัยของหน้าจอ และความโฉบเฉี่ยวของการตกแต่ง โดยเฉพาะรุ่น N-Sport ที่เลือกใช้สีเหลืองดำเป็นธีมหลัก

รายละเอียดภายในที่โดดเด่น:

• หน้าจอกลาง Infotainment 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay/Android Auto แบบไร้สาย

• มาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว ปรับรูปแบบการแสดงผลได้

• เบาะนั่งหนังสังเคราะห์ Alcantara เดินตะเข็บเหลือง (เฉพาะ N-Sport)

• ระบบเสียง Bose Personal Plus ลำโพง 8 จุด พร้อมลำโพงในพนักพิงศีรษะ

• ช่องชาร์จ USB-A และ USB-C ครบทั้งหน้า/หลัง

• ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย

• ระบบแสง Ambient Light ปรับสีได้

เบาะแถว 2 พับได้แบบ 60:40 และพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายเริ่มต้น 422 ลิตร พับแล้วขยายได้เกิน 1,200 ลิตร จึงใช้งานจริงได้ทั้งชีวิตในเมืองและเดินทางท่องเที่ยว

ระบบความปลอดภัย

แม้จะเป็นรถเล็ก แต่ Juke 2025 ก็อัดระบบความปลอดภัยมาแบบเต็มที่ตามมาตรฐานยุโรป

• ระบบเบรกอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนนและจักรยาน

• ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน + ควบคุมให้อยู่ในเลน

• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Adaptive

• กล้องรอบคัน 360° (AVM)

• ระบบเตือนมุมอับสายตา + เตือนขณะถอย

• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินขณะถอยหลัง

Juke ยังผ่านการรับรอง 5 ดาว Euro NCAP ซึ่งถือเป็นการันตีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสำหรับรถ SUV ขนาดเล็ก

อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• รองรับ การอัปเดต OTA (Over-the-Air) สำหรับซอฟต์แวร์ระบบรถ

• สามารถตั้งค่ารถจากแอป NissanConnect เช่น เปิดแอร์ล่วงหน้า, ดูตำแหน่งรถ

• หลังคาซันรูฟแบบกระจก (เฉพาะรุ่นสูง)

• ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Park Assist)

สรุป

Nissan Juke 2025 คือการกลับมาของรถ SUV ที่ไม่เหมือนใคร ในยุคที่รถหลายรุ่นเริ่มหน้าตาเหมือนกันไปหมด Juke กลับเลือกที่จะ “โดดเด่นแบบมีเหตุผล” ทั้งในด้านดีไซน์ เทคโนโลยี และแนวคิดของรถที่ต้องสนุก ไม่ใช่แค่ใช้งาน

ใครที่เคยหลงรัก Juke รุ่นแรก นี่คือเวอร์ชันที่โตขึ้น ฉลาดขึ้น และขับสนุกขึ้น ส่วนใครที่ยังไม่เคยลอง Nissan Juke มาก่อน นี่คือรถที่บอกได้เลยว่า “ไม่เหมือนใคร แต่จะกลายเป็นรถในดวงใจ” ได้อย่างแน่นอน