Nissan Note Aura 2025 แฮทช์แบ็กไฮบริดที่พรีเมียมกว่าเดิม
Nissan Note Aura 2025 คือการแตกไลน์จาก Note รุ่นปกติ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็ก แต่ยังคงความหรูหรา นุ่มนวล และอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี ทั้งในด้านความปลอดภัย สมรรถนะ และความสะดวกสบาย – โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อน e-POWER ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของ Nissan รุ่นใหม่ ๆ
Note Aura เปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม ด้วยการดีไซน์ที่ดูหรูหราเกินคลาส ออปชั่นที่เหนือความคาดหมายของรถไซซ์เล็ก พร้อมอัตราการบริโภคน้ำมันที่ดีเยี่ยม
ราคาคาดการณ์จำหน่าย
แม้ Nissan ยังไม่มีการเปิดตัว Note Aura อย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่จากราคาจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ที่มีการเปิดตัวแล้ว คาดว่าเมื่อเข้าไทย ราคาจะอยู่ในช่วงประมาณ:
- รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD): 1,190,000 – 1,290,000 บาท
- รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (e-4ORCE): 1,300,000 – 1,390,000 บาท
ราคาดังกล่าวเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้ ถือว่าคุ้มค่าและมีแนวโน้มจะแข่งขันในตลาดรถระดับพรีเมียมไซซ์เล็กได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มคนเมืองที่ต้องการรถเล็กที่มีบุคลิกเฉพาะตัว
รูปลักษณ์
Nissan Note Aura 2025 ได้รับการออกแบบโดยยึดหลัก “ความเรียบง่ายแต่โดดเด่น” (Premium Compact)
- กระจังหน้า V-Motion โครเมียมเข้ม ผสานกับไฟหน้า LED ทรงเรียวและไฟ DRL แนวนอน ให้ลุคหรูทันสมัย
- ตัวถังขนาดกะทัดรัด มิติเข้าเมืองได้สบาย ยาวประมาณ 4,045 มม.
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่น Aura
- ตัวเลือกสีทูโทนมากถึง 14 เฉด เช่น สีแดง Bordeaux x ดำมุก หรือ ขาวมุก x หลังคาดำ
- ด้านท้ายดีไซน์เรียบหรู พร้อมไฟท้าย LED เชื่อมแนวขวางเต็มบานหลัง
ทั้งหมดนี้ทำให้ Note Aura มีความรู้สึกเป็นรถยุโรปขนาดย่อมมากกว่ารถญี่ปุ่น Eco-Car แบบที่เราคุ้นเคย
สเปค
เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน
- ระบบ e-POWER เจเนอเรชันใหม่ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าโดยตรง
- เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร ทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟ ไม่ขับล้อ
- มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 134 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร (สูงเท่ากับ SUV ขนาดกลาง)
- รุ่น e-4ORCE ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หน้า-หลัง ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบไฟฟ้าทั้งหมด
แบตเตอรี่
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 1.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง (ขนาดเล็กแต่จ่ายพลังสูง)
- ไม่มีการชาร์จจากภายนอก (ไม่ใช่ PHEV)
ช่วงล่างและระบบกันสะเทือน
- ด้านหน้าแบบ MacPherson Strut
- ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม (FWD) หรือมัลติลิงค์ (e-4ORCE)
- ระบบเบรก 4 ล้อดิสก์ พร้อม ABS, EBD และ Brake Assist
ภายในห้องโดยสาร
- หน้าจอ Digital Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอกลางอินโฟเทนเมนต์อีก 9 นิ้ว
- ระบบเสียง Bose Personal Plus ลำโพง 8 ตำแหน่ง เสียงกระหึ่มรอบทิศ
- วัสดุตกแต่งแบบพรีเมียม เช่น ผ้าทอเส้นใยแนวตั้ง เบาะหุ้มหนังนุ่มแบบ Zero Gravity
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกฝั่ง พร้อม Nanoe X และช่องแอร์ผู้โดยสารหลัง
- พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 340 ลิตร
เทคโนโลยีและความปลอดภัย
- ProPILOT พร้อม Navi-Link ช่วยควบคุมพวงมาลัยในทางโค้ง
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนน/จักรยาน
- กล้องรอบคัน 360 องศา + เซ็นเซอร์หน้า-หลัง
- ระบบเตือนมุมอับสายตา, เตือนรถตัดผ่านขณะถอย
- ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าคนขับ และการเบี่ยงออกนอกเลน
อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- มีให้เลือกทั้งรุ่น Aura ปกติ, Aura AUTECH (ตกแต่งหรูพิเศษ) และ Aura NISMO (ตกแต่งแนวสปอร์ต)
- Nissan ตั้งใจทำ Aura ให้แตกต่างจาก Note ธรรมดาอย่างชัดเจน เพื่อสร้าง Segment ใหม่ของรถหรูขนาดเล็ก
- การออกแบบเน้นใช้งานจริงในเมือง มีระบบช่วยจอด และรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 4.9 เมตร
- หากนำเข้าไทยพร้อมแพ็กเกจอุปกรณ์ครบ จะเป็นคู่แข่งตรงกับ Honda City Hatchback RS หรือแม้แต่ Mazda2 High Plus ได้อย่างไม่ยาก
สรุป
Nissan Note Aura 2025 คือรถยนต์ที่เติมเต็มคำว่า “เล็กแต่หรู” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าทั้งระบบผ่านเทคโนโลยี e-POWER ความเงียบและแรงบิดที่เหนือกว่ารถเบนซินปกติ ประกอบกับห้องโดยสารที่ให้ความรู้สึกเทียบเท่ารถราคา 2 ล้าน ทำให้ Note Aura คือคำตอบของคนเมืองที่ต้องการรถคันเดียวที่จบทุกการใช้งาน