Toyota Land Cruiser Prado 2025 SUV ออฟโรดระดับตำนาน

Toyota Land Cruiser Prado คือชื่อที่อยู่คู่กับสายออฟโรดทั่วโลกมายาวนาน รถรุ่นนี้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ที่ต้องการทั้งความแข็งแกร่ง ความหรูหรา และความทนทานที่เชื่อถือได้ ปี 2025 ถือเป็นการเปิดตัวเจเนอเรชันใหม่ (รหัส J250) ที่ผสมผสานสไตล์ย้อนยุคเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่บนแพลตฟอร์ม TNGA-F เดียวกับ Land Cruiser 300 ซีรีส์

รุ่นใหม่ไม่ได้เป็นเพียง SUV ที่ขับในเมืองได้สบาย แต่ยังคงเอกลักษณ์การลุยออฟโรดที่โดดเด่น พร้อมการอัปเดตภายในที่เน้นความหรู และเทคโนโลยีช่วยขับ Toyota Safety Sense รุ่นล่าสุด

ดีไซน์ภายนอก – เอกลักษณ์สี่เหลี่ยมย้อนยุค

Prado 2025 มาพร้อมแนวคิดการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจาก Land Cruiser รุ่นคลาสสิกอย่าง J60 แต่ปรับให้เข้ากับยุคปัจจุบัน

• กระจังหน้าเหลี่ยมทรงตั้ง พร้อมไฟหน้า LED ทรงกลม/เหลี่ยม

• ตัวถังทรงกล่อง แข็งแกร่งแต่ดูล้ำสมัย

• ซุ้มล้อโป่งชัดเจน สื่อถึงความบึกบึนของรถออฟโรดแท้

• ล้ออัลลอยขนาด 18–20 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

• ไฟท้ายแนวนอนออกแบบให้ดูเรียบง่ายและทนทาน

ดีไซน์โดยรวมทำให้ Prado ใหม่มีความเป็น “Retro Modern” ที่ผสมความดุดันกับความคลาสสิกได้อย่างลงตัว

ห้องโดยสาร – หรูหราและใช้งานได้จริง

ภายในของ Prado 2025 ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เน้นความหรูที่ใช้งานได้จริง

• จอ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

• มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ แสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วน

• เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ ปรับไฟฟ้า และระบบระบายอากาศ/ทำความร้อนในรุ่นสูง

• ระบบไฟ Ambient Light รอบห้องโดยสาร

• ที่นั่งแบบ 7 ที่ รองรับครอบครัวใหญ่ พร้อมพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ

• พื้นที่โดยรวมกว้างขวาง และวัสดุคุณภาพสูงในรุ่นท็อป

แม้จะเป็นรถสายลุย แต่ Toyota ยังคงออกแบบให้ห้องโดยสารมีบรรยากาศที่หรูหราและสะดวกสบายเหมาะกับการใช้งานทุกวัน

ขุมพลังและสมรรถนะ

Toyota Land Cruiser Prado 2025 มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลายตามตลาด

• เบนซิน 2.4 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 267 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร

• ดีเซล 2.8 ลิตร เทอร์โบ + Mild Hybrid 48V ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร

• จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อน 4WD มาตรฐาน

สมรรถนะโดยรวมถูกปรับให้ตอบสนองทั้งบนถนนในเมืองและเส้นทางออฟโรด พร้อมระบบ Stabilizer with Disconnection Mechanism (SDM) ที่สามารถปรับช่วงล่างให้นุ่มขึ้นในเมือง และแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเจอเส้นทางท้าทาย

ความสามารถในการลุยออฟโรด

Prado 2025 ยังคง DNA การเป็นรถออฟโรดเต็มขั้น

• ระบบขับเคลื่อน 4WD พร้อม Transfer Case (Hi/Low)

• ระบบล็อกดิฟเฟอเรนเชียลกลางและหลัง

• โหมดขับเคลื่อนออฟโรด เช่น Mud, Sand, Snow

• ระบบควบคุมการลงทางชัน (Hill Descent Control)

• ความสามารถลากจูงสูงสุด 3,500 กก.

ทั้งหมดนี้ทำให้ Prado สามารถรับมือเส้นทางโหดได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทราย หรือโคลน

เทคโนโลยีความปลอดภัยและช่วยขับ

Toyota ติดตั้ง Toyota Safety Sense รุ่นล่าสุด ใน Prado 2025 ครบชุด

• Adaptive Cruise Control

• ระบบเบรกอัตโนมัติ (Pre-Collision System)

• ระบบเตือนและช่วยควบคุมให้อยู่ในเลน

• กล้องรอบคัน 360 องศา

• ระบบตรวจจับคนเดินถนนและจักรยานยนต์

ช่วยให้ผู้ขับมั่นใจได้ทั้งในการเดินทางในเมืองและการผจญภัยระยะไกล

รุ่นย่อยและราคา

Prado 2025 มีหลายรุ่นให้เลือก เช่น GX, VX, VX-L, Kakadu ขึ้นอยู่กับตลาด โดยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่

• ในออสเตรเลีย: ประมาณ $72,500 AUD (ราว 1.7 ล้านบาท)

• รุ่นสูงสุด Kakadu ราคาเกือบ $100,000 AUD (ราว 2.4 ล้านบาท)

• คาดว่าในไทยจะนำเข้าราคาเริ่มต้นที่ 4–5 ล้านบาท

คู่แข่งในตลาด

Prado ต้องแข่งขันกับ SUV ออฟโรดขนาดใหญ่หลายรุ่น เช่น

• Ford Everest Platinum – ดีไซน์หรู เทคโนโลยีครบ ราคาย่อมเยา

• Jeep Wrangler – ลุยออฟโรดแท้แต่เน้นสายแอดเวนเจอร์

• Land Rover Defender – ภาพลักษณ์หรูพร้อมสมรรถนะออฟโรดระดับโลก

แต่ Prado ยังคงได้เปรียบเรื่องความทนทาน การบำรุงรักษาง่าย และเครือข่ายศูนย์บริการ Toyota ที่ครอบคลุม

จุดเด่นของ Toyota Land Cruiser Prado 2025

• ดีไซน์ใหม่ผสมความคลาสสิกและความทันสมัย

• เครื่องยนต์มีทั้งเบนซิน เทอร์โบ และดีเซล Mild Hybrid

• สมรรถนะออฟโรดแข็งแกร่ง พร้อมเทคโนโลยี SDM

• ห้องโดยสารหรู รองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง

• ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ครบ

• แบรนด์ Toyota ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน

สรุป

Toyota Land Cruiser Prado 2025 คือ SUV ที่ไม่ใช่แค่สืบสานตำนาน Land Cruiser แต่ยังยกระดับการใช้งานในยุคใหม่ ทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยี ความหรูหรา และความสามารถในการลุยที่เหนือกว่า SUV ทั่วไป

ถ้าคุณกำลังมองหา SUV ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้ในเมือง ครอบครัว และการผจญภัยนอกเส้นทาง Prado 2025 คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในปีนี้