Autotirechecking สเปคและราคายางอัพเดตล่าสุด TOP CHART ยางรถยนต์ - ยางรถยนต์ขอบ 13" - ยางรถยนต์ขอบ 14 " - ยางรถยนต์ขอบ 15 " - ยางรถยนต์ขอบ 16 " - ยางรถยนต์ขอบ 17 " - ยางรถยนต์ขอบ 18 " - ยางรถยนต์ขอบ 19 " - ยางรถยนต์ขอบ 20 " - ยางรถยนต์ขอบ 21 " - ยางรถยนต์ขอบ 22 " ราคาและสเปคล้อแม็ก ราคาและสเปคแบตเตอรี่ ตารางผ่อนรถ โปรโมชั่น - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 14 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 15 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 16 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 17 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 18 " ติดต่อโฆษณา

Toyota MR-S สปอร์ตเปิดประทุนขับหลัง เสน่ห์ที่ยังตราตรึง

หากพูดถึงรถสปอร์ตน้ำหนักเบาที่ “ขับสนุกในงบไม่แรง” ชื่อหนึ่งที่สายซิ่งทั่วโลกรู้จักกันดีคือ Toyota MR-S หรือที่บางประเทศรู้จักในชื่อ Toyota MR2 Spyder นี่คือรถโรดสเตอร์วางเครื่องกลาง-ขับหลัง ที่มีความพิเศษในแบบที่หาไม่ได้ง่ายในตลาดรถยนต์ปัจจุบัน

Toyota MR S สปอร์ตเปิดประทุนขับหลัง เสน่ห์ที่ยังตราตรึง

ถึงแม้จะเลิกผลิตไปตั้งแต่ปี 2007 แต่เสน่ห์ของมันยังคงตรึงใจนักขับ และคนที่รักความคล่องตัว รวมถึงกลิ่นอายของยุครถสปอร์ตญี่ปุ่นแท้ ๆ อย่างเต็มเปี่ยม


จุดเริ่มต้นของ MR-S: รถเล็กหัวใจใหญ่

Toyota MR-S เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 โดยเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ของรถตระกูล MR2 (Midship Runabout 2-seater) ซึ่งมีต้นกำเนิดตั้งแต่ปี 1984

ชื่อ “MR-S” มาจากคำว่า Midship Runabout – Sport สะท้อนถึงแนวคิดหลักของรถคันนี้ที่เน้น:

  • ขนาดกะทัดรัด

  • วางเครื่องยนต์กลาง

  • ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง

  • น้ำหนักเบา

  • โครงสร้างเพื่อการควบคุมที่แม่นยำ


ขุมพลังที่ไว้ใจได้ กับความเบาที่เป็นจุดแข็ง

Toyota MR-S ใช้เครื่องยนต์เพียงรุ่นเดียวคือ 1.8 ลิตร 1ZZ-FE DOHC 16V VVT-i ซึ่งอาจดูไม่แรงเท่าไหร่ แต่เมื่อจับคู่กับน้ำหนักรถเพียง ~1,000 กิโลกรัม การตอบสนองจึง “รวดเร็วและเบาสบาย” อย่างน่าประทับใจ

  • กำลังสูงสุด: 140 แรงม้า @ 6,400 rpm

  • แรงบิด: 171 นิวตันเมตร @ 4,400 rpm

  • ระบบเกียร์: มีทั้งแบบธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด (Sequential)

  • ระบบขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)

  • จัดวางเครื่องยนต์แบบ Mid-Engine ช่วยกระจายน้ำหนักแบบใกล้ 50:50

ผลคือ “ฟีลลิ่งขับขี่ที่สนุกอย่างแท้จริง” โดยเฉพาะเมื่อเข้าโค้ง หรือขับบนถนนสายเลี้ยวเยอะ ๆ


Toyota MR S สปอร์ตเปิดประทุนขับหลัง เสน่ห์ที่ยังตราตรึง

ดีไซน์กะทัดรัด เปิดประทุนได้ทุกวัน

Toyota MR-S ถูกออกแบบให้เป็นโรดสเตอร์ 2 ที่นั่งแบบหลังคาผ้า (Soft Top) ที่เปิด-ปิดได้อย่างง่ายดาย ใช้พื้นที่จอดน้อย ขับในเมืองได้สบาย และยังให้ลุคที่แตกต่างจากรถทั่วไป

  • รูปทรง Low Profile + ตัวรถเตี้ย

  • ฝากระโปรงหน้า–ท้ายสั้น กระจายมวลใกล้ศูนย์กลาง

  • ภายในเน้นคนขับเป็นศูนย์กลาง พวงมาลัยสปอร์ต และมาตรวัดดูง่าย

แม้ภายในจะไม่มีออฟชันหรูหราแบบรถยุคใหม่ แต่ให้ความรู้สึก “เรียบง่าย ขับสนุก ไม่ต้องเยอะ” อย่างลงตัว


รุ่นพิเศษที่นักสะสมหลงรัก

ในช่วงท้ายของการผลิต Toyota ได้เปิดตัวรุ่นพิเศษสำหรับตลาดญี่ปุ่นและยุโรป เช่น:

  • V-Edition: มีการตกแต่งเฉพาะรุ่น, ล้อพิเศษ, และระบบ Limited Slip Differential (LSD)

  • TF300 (UK): ผลิตเพียง 300 คันทั่วโลก มาพร้อมเลขประจำคัน, ช่วงล่างจูนพิเศษ และฟีลลิ่งขับขี่แบบรถสนาม

รุ่นเหล่านี้กลายเป็นที่ต้องการของนักสะสม โดยเฉพาะในตลาดรถญี่ปุ่นและยุโรป


Toyota MR S สปอร์ตเปิดประทุนขับหลัง เสน่ห์ที่ยังตราตรึง

เปรียบเทียบ MR-S กับคู่แข่งยุคเดียวกัน

รุ่น ขับเคลื่อน วางเครื่อง แรงม้า น้ำหนัก จุดเด่น
Toyota MR-S RWD Mid-Engine 140 ~1,000 กก. เบา บาลานซ์ดี ขับสนุก
Mazda MX-5 NB RWD Front-Engine 140–160 ~1,080 กก. เกียร์แมนนวลลื่น ฟีลนิ่ม
Honda S2000 RWD Front-Engine 240 ~1,250 กก. แรง เรดไลน์สูง ขับเร้าใจ

ทำไม Toyota MR-S ยังน่าใช้ในปี 2025?

  • ราคามิตรภาพ: รถนำเข้ามือสองเริ่มต้นเพียง 4–7 แสนบาท

  • ขับสนุกจริง ไม่ต้องแรงเว่อร์

  • แต่งง่าย มีอะไหล่รองรับจากทั้งญี่ปุ่นและไทย

  • มีชุมชนคนเล่นเยอะ ทั้งสายแต่ง, แข่ง, และอนุรักษ์


โอกาสของการกลับมา? MR2 ใหม่ในอนาคต?

มีรายงานจากสื่อต่างประเทศว่า Toyota อาจพิจารณานำ MR2 กลับมาอีกครั้ง โดยใช้พื้นฐานขับหลัง + เครื่องยนต์เทอร์โบขนาดเล็ก หรือระบบ Hybrid/EV เพื่อให้เข้ากับยุคปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นทายาทของ MR-S อย่างไม่เป็นทางการ


สรุป: Toyota MR-S คือรถขับสนุกที่ยังน่าครอบครองในยุคนี้

แม้จะผ่านมานานกว่า 20 ปี Toyota MR-S ก็ยังเป็นหนึ่งในรถที่ให้ ประสบการณ์ขับขี่เหนือความคาดหมาย สำหรับใครที่กำลังมองหา Roadster ขับหลัง น้ำหนักเบา และ “มีสไตล์ไม่เหมือนใคร” MR-S คือคำตอบที่คุณหาอยู่

Top