Autotirechecking สเปคและราคายางอัพเดตล่าสุด TOP CHART ยางรถยนต์ - ยางรถยนต์ขอบ 13" - ยางรถยนต์ขอบ 14 " - ยางรถยนต์ขอบ 15 " - ยางรถยนต์ขอบ 16 " - ยางรถยนต์ขอบ 17 " - ยางรถยนต์ขอบ 18 " - ยางรถยนต์ขอบ 19 " - ยางรถยนต์ขอบ 20 " - ยางรถยนต์ขอบ 21 " - ยางรถยนต์ขอบ 22 " ราคาและสเปคล้อแม็ก ราคาและสเปคแบตเตอรี่ ตารางผ่อนรถ โปรโมชั่น - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 14 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 15 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 16 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 17 " - โปรโมชั่นยางรถยนต์ขอบ 18 " ติดต่อโฆษณา

Ferrari 12 Cilindri แรงด้วย 12 สูบ ล้วน ไม่สนเทอร์โบ โนไฮบริด

04/05/2024 l POST IN :: บทความทั้งหมด l By :
Ferrari 12 Cilindri จะมีกำลัง 830 แรงม้า จากเครื่องยนต์ 12 กระบอกสูบที่ลากรอบได้สูงสุด 9,500 รอบ/นาที โดยปราศจากระบบอัดอากาศ หรือไฮบริด ซึ่งอาจเป็นรถ 12 สูบ รุ่นท้าย ๆ บนโลกใบนี้
Ferrari 12 Cilindri แรงด้วย 12 สูบ ล้วน ไม่สนเทอร์โบ โนไฮบริด
ค่อนข้างชัดเจนว่าแบรนด์ซูเปอร์คาร์อย่าง Ferrari พยายามรักษาอดีตของตนเองควบคู่ไปกับเทคโนโลยีใหม่ ต่างจากแนวคิดของ Lamborghini อย่างสิ้นเชิง
ซึ่งล่าสุด Ferrari 12 Cilindri คือการตอกย้ำวิถีของ Ferrari ในฐานะสปอร์ตแกรนด์ทัวริ่งรุ่นใหญ่ Top of the Line ต่อจาก Ferrari 812 Superfast ผ่านดีไซน์สะท้อนอดีตอย่าง Ferrari 365 GTB4 Daytona
และแน่นอน Ferrari 12 Cilindri ติดตั้งเครื่องยนต์วางกลางลำด้านหน้า จำนวน 12 กระบอกสูบ ตามชื่อ กางทำมุมเป็นรูปตัววี 65 องศา โดยไร้ระบบอัดอากาศ หรือไฮบริด แต่ผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษเสียด้วย
Ferrari 12 Cilindri แรงด้วย 12 สูบ ล้วน ไม่สนเทอร์โบ โนไฮบริด

Ferrari 365 GTB4 Daytona

Ferrari 12 Cilindri แรงด้วย 12 สูบ ล้วน ไม่สนเทอร์โบ โนไฮบริด

Ferrari 12 Cilindri

ทั้งนี้ Ferrari 12 Cilindri จะมีตัวถัง 2 แบบ คือ 2 ประตู คูเป้ กับ 2 ประตู ที่มีคำว่า Spider พ่วงท้าย ซึ่งมีความหมายเดียวกับ Speeder หรือ Speedster หมายถึงรุ่นเปิดหลังคา (ในอดีตรถกลุ่มนี้ไม่มีหลังคาเพื่อลดน้ำหนัก) ซึ่งรถอิตาลีใช้คำนี้อันเป็นที่เข้าใจโดยทั่วกัน
แน่นอนว่า หนึ่งในสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Ferrari คือการใช้เครื่องยนต์ 12 สูบ ในการแข่งขันจนกวาดแชมป์จนแทบจะไร้คู่แข่ง และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติรถที่รุ่นใหญ่ของ Ferrari จะเป็นแบบ GT วางเครื่องยนต์ 12 สูบ กลางลำหน้าเสมอ
ยกเว้นรถผลิตพิเศษที่เลือกคนซื้อ กับบางช่วงที่ Ferrari ต้องยอมจำนนจากการมาของ Lamborghini Miura ด้วยเหตุที่ Enzo Ferrari มองว่า ไม่ใช่เศรษฐีทุกคนจะสามารถขับรถกำลังสูงเครื่องวางกลางลำได้ เนื่องจากการควบคุมทำได้ยากกว่าหากไม่มีประสบการณ์มากพอ
Ferrari 12 Cilindri แรงด้วย 12 สูบ ล้วน ไม่สนเทอร์โบ โนไฮบริด
Ferrari 12 Cilindri แรงด้วย 12 สูบ ล้วน ไม่สนเทอร์โบ โนไฮบริด

Ferrari 12Cilindri Spider

ดังนั้น Ferrari 12 Cilindri จึงต้องใช้เครื่องยนต์ วี 12 สูบ ขนาด 6.5 ลิตร วางกลางลำด้านหน้า โดยเป็นการนำเอาเครื่องยนต์ของ 812 Superfast มาปรับปรุงใหม่ จนได้กำลังสูงสุด 830 แรงม้า ที่ 9,250 รอบ/นาที
ซึ่งลากเรดไลน์ได้ถึง 9,500 รอบ/นาที โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบอัดอากาศ หรือไฮบริด แถมยังผ่านมาตรฐานมลพิษด้วย
นอกจากนี้ 12 Cilindri ยังมีเกียร์ 8 สปีด ที่เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วกว่า 812 Superfast ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นรถที่เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วมากอยู่แล้ว อีกราว ๆ 30 เปอร์เซ็นต์ และอัตราเร่งก็ดีขึ้นด้วย
ทำให้ Ferrari 12 Cylindri เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 2.9 วินาที และถึง 200 กม./ชม. ภายใน 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม. พร้อมเสียงหวาน ๆ ที่รถยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถให้ได้
Ferrari 12 Cilindri แรงด้วย 12 สูบ ล้วน ไม่สนเทอร์โบ โนไฮบริด
Ferrari 12 Cilindri แรงด้วย 12 สูบ ล้วน ไม่สนเทอร์โบ โนไฮบริด
สำหรับขนาดของ Ferrari 12 Cylindri จะใหญ่กว่า 812 Superfast แต่มีฐานล้อที่สั้นลงเพื่อความคล่องแคล่ว ส่วนงานดีไซน์ เป็นการนำเอากลิ่นอายและรายละเอียดของรุ่น Daytona กลับมาเล่าใหม่อีกครั้ง
ขณะที่ภายใน จะได้พวงมาลัยสไตล์ Ferrari ที่เต็มไปด้วยปุ่มควบคุมมากมายสไตล์รถแข่ง กับแผงคอนโซล Dual Cockpit ที่เกือบจะเหมือนของ Purosangue แต่มีจอมัลติฟังชันกลางเพิ่มมาอีกหนึ่งจอกับเบาะแค่ 2 ตัว เท่านั้น
ส่วนเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่ควบคุมรถกำลังมหาศาลของ Ferrari 12Cylindri ก็จะมีการติดตั้งระบบควบคุมแชสซีขั้นสูงใหม่ล่าสุด ตลอดจน Side Slip Control 8 ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อประเมินระดับการยึดเกาะของยางได้รวดเร็วขึ้น พร้อมระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้ออัจฉริยะมาให้
Ferrari 12 Cilindri แรงด้วย 12 สูบ ล้วน ไม่สนเทอร์โบ โนไฮบริด
Ferrari 12 Cilindri แรงด้วย 12 สูบ ล้วน ไม่สนเทอร์โบ โนไฮบริด
เป็นที่เข้าใจตรงกัน Ferrari 12 Cylindri ในฐานะสปอร์ต GT ตัวพ่อของค่ายม้าลำพองย่อมมีราคาของมัน โดย Ferrari แขวนป้ายไว้ที่ 395,000 ยูโร (15.6 ล้านบาท) สำหรับรุ่นคูเป้ และ 435,000 ยูโร (17.2 ล้านบาท) หากต้องการรุ่นเปิดหลังคา และแน่นอน Ferrari ก็เลือกลูกค้า เปิดตัวมาก็คงมีออเดอร์สั่งซื้อล่วงหน้ายาวไปอีกหลายปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่มา : ferrari.com
Top